สธ.แจงยิบ Thailand Pavilion ไม่มีเงินทอน โครงการนี้จัดทุก 5 ปี ปีนี้งบฯ 900 ล้าน ต่ำกว่าครั้งก่อนมาก ด้านบริษัทเอกชนแจงเข้าใจสับสนเพราะชื่อกิจการร่วมค้าฯ ซ้ำกัน
วันนี้ (21 เม.ย.68) นพ.กรกฤช ลิ้มสมมุติ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และนายอุปถัมภ์ นิสิตสุขเจริญ กรรมการบริหารบริษัท ไรท์แมน จำกัด และกิจการค้าร่วม RMA110 แถลงข่าวประเด็นการจัดทำนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในงาน World Expo 2025 Osaka, Kansai ณ นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
นายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ กรรมการบริหารบริษัท ไรท์แมน จำกัด และกิจการร่วมค้า RMA 110 ชี้แจงว่า กิจการร่วมค้า RMA 110 กับบริษัท กิจการร่วมค้า RMA 110 จำกัด เป็นคนละบริษัทกัน แต่มีเจ้าของและที่อยู่เดียวกัน โดยกิจการร่วมค้า RMA 110 เป็นสัญญากิจการร่วมค้าระหว่างบริษัท ไรท์แมน จำกัด กับบริษัท สถาปนิก 110 จำกัด โดยเข้าร่วมประมูลทั้ง 3 ครั้ง โดยจัดตั้งขึ้นมีวัตถุประสงค์ชัดเจน เพื่อยื่นประมูลจัดนิทรรศการในงานเอ็กซ์โป 2025 และทุกครั้งที่มีการยื่นประมูลงาน จะใช้กิจการร่วมค้าฯ ทั้งหมด
ส่วนบริษัท กิจการร่วมค้า RMA 110 จำกัด จัดตั้งขึ้นเพื่อเอื้ออำนวยต่อการส่งของ โดยเฉพาะกับประเทศญี่ปุ่น แต่บริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสัญญาครั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งขึ้นมา เพื่อใช้ทำเรื่องเอกสาร โดยตั้งขึ้นมาโดยไม่มีความเชี่ยวชาญด้านบัญชี แต่ภายหลังผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีบอกว่า การจัดตั้งแบบนี้ จะทำให้เอกสารซ้ำซ้อน เหมือนมีอีกบริษัทหนึ่งมาเป็นผู้ช่วยกิจการร่วมค้าฯ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสัญญานี้ และยอมรับว่า เป็นเจ้าของเดียวกัน และเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวจึงต้องปิด เพื่อลดภาระทางบัญชี ไม่มีนิติกรรมใด และไม่มีความซับซ้อน
นายอุปถัมป์ กล่าวอีกว่า งานนี้เป็นงานต่างประเทศ ต้องใช้ผลงานประสบการณ์ที่เคยทำมา ซึ่งบริษัท ไรท์แมน เป็นอีเวนท์ ออแกไนซ์เซอร์ ทำงานด้านนี้มานาน ปีนี้เป็นปีที่ 35 ต้องการความเชี่ยวชาญมากขึ้น จึงต้องรวมบริษัท สถาปนิก110ฯ มายื่นงานนี้ ในรูปแบบกิจการร่วมค้า เพราะเนื้องานในโอซากา ประกอบด้วย การสร้างอาคารสถาปัตยกรรมในต่างประเทศ และการนำเสนอเรื่องนิทรรศการ
ด้าน นพ.กรกฤช ลิ้มสมมติ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ยืนยันว่า การประมูลครั้งนี้ไม่มีเงินทอน แม้แต่ไปดูงานที่โอซากา ยังขึ้นรถไฟไปดูเอง ไม่ให้เจ้าหน้าที่ของกิจการร่วมค้าฯ มารับ แต่ยอมรับมีเจ้าหน้าที่เรียกรับ เมื่อตนรู้จึงลงโทษ ทั้งนี้ ยืนยันว่าเอกสารทุกอย่างดำเนินการตามระเบียบโดยเคร่งครัด สามารถตรวจสอบได้ ส่วนเงินทอนต่าง ๆ ในฐานะเป็นผู้บริหาร ขอยืนยันว่ากรม สบส.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแอบอ้างใด ๆ
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ทุกข้อมูลที่มีการตั้งคำถามทาง สธ.และ สบส. ยินดีเปิดเผยด้วยความโปร่งใสและมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์อยู่แล้ว แต่อาจด้วยเอกสารราชการ ทำให้เกิดความไม่เข้าใจได้ สิ่งที่จะอธิบายอันดับแรกคือ งาน World Expo จัดขึ้นทุก 5 ปี ตามวาระการจัดงาน ครั้งล่าสุดในปี 2020 จัดขึ้นที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศไทยร่วมจัดด้วยงบประมาณ 1,200 ล้านบาท ส่วนครั้งนี้ที่ สธ.มีส่วนเข้าไปจัดงาน เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการภายใต้งบประมาณ 900 ล้านบาท ซึ่งงบฯ ปีนี้ต่ำกว่าครั้งก่อนมาก
“เรามีโจทย์ว่าคนทั้งโลกต้องได้เห็นศักยภาพ โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างเสริมสุขภาพ และในยุคนี้เราต้องขายของได้ด้วย จึงเอามาสร้างเศรษฐกิจ พร้อมทั้งมีเป้าหมาย Business Matching สนับสนุนนวดไทย ตามนโยบายของ รมว.สาธารณสุข ที่อยากให้นวดไทยสร้างรายได้หลายแสนล้านบาท จะเห็นได้ว่ามีเป้าหมายในการสร้างคอนเทนต์อย่างชัดเจน เป็นเป้าหมายระยะสั้น กลางและยาว” นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับการจัดงานเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 13 เม.ย.68 มีผู้เข้าชมนิทรรศการเฉลี่ยวันละ 1 หมื่นคน เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งจะมีทีมประเมินการเข้าชม ทั้งด้านเนื้อหา ความสนใจ และ Business Matching ซึ่งมีทีมวิชาการในระดับมหาวิทยาลัยที่จะพูดคุยในรายละเอียดต่อไป
