วันนี้ (18 เม.ย.68) ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี เปิดเผยว่า ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีกรณีผู้ที่ไปเล่นน้ำในงานเทศกาลสงกรานต์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และใช้สารเสพติดที่มีชื่อเป็นคำแสลงว่า “ขนม” หรือ “ลาบูบู้” แล้วมีอาการหมดสติ กล้ามเนื้อเกร็ง หยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้น ซึ่งเบื้องต้นหน่วยพยาบาลที่รับตัวได้ปรึกษาเข้ามาที่ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี จำนวน 3 ราย ในจำนวนนี้ มีเสียชีวิตแล้ว 2 ราย ยังอยู่ในไอซียูอีก 1 ราย
ศูนย์พิษวิทยา เปิดเผยด้วยว่า จากอาการที่ได้รับรายงาน อาจสงสัยว่าจะเป็นจากการผสมยากลุ่มสารกระตุ้นประสาท ร่วมกับยาที่มีฤทธิ์กดประสาท ทำให้มีการเสริมฤทธิ์กันที่รุนแรง ทั้งนี้ยังต้องรอผลตรวจยืนยันชนิดสารจากทางห้องปฏิบัติการ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงประมาณปี 2565 ประเทศไทยเคยพบเหตุการณ์ “เคนมผง” ยาเสพติดผสมที่ทำให้เกิดการเสริมฤทธิ์กันทำให้เกิดการเสียชีวิตหลายราย จำนวนผู้ใช้สารเสพติดที่ศูนย์พิษวิทยาได้รับปรึกษานี้ อาจเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง อาจมีผู้ที่เสียชีวิตที่อยู่ในขั้นตอนการชันสูตรของนิติเวช หรือยังเป็นผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาลอื่น ๆ ได้
เบื้องต้นทางศูนย์พิษวิทยารามาธิบดีได้แจ้งข้อมูลประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และเครือข่ายทางวิชาการที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเพื่อดำเนินการต่อแล้ว ทั้งนี้ ขอให้เฝ้าระวังหากมีเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวที่อาจมีการใช้สารเสพติด หรืออาจมียาเหล่านี้เหลือจากช่วงเทศกาล แนะนำไม่ให้ใช้ยาหรือสารเหล่านี้ เนื่องจากอาจอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
สำหรับยาเสพติดที่ปั๊มเป็นตัวการ์ตูน หรืออาร์ตทอย ที่พบในตลาดไม่ใช่ยาเสพติดตัวใหม่ แต่เป็นยาอียาอี ที่ปั๊มออกมาเป็นรูปลาบูบู้ โดย ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดของกลุ่มนักค้ายา ที่ผ่านมาพบการปั๊มยาอีเป็นรูปต่าง ๆ มากมาย ทำให้ยาเสพติด มีภาพที่น่ารัก คล้ายกับขนมขบเคี้ยว
