ตำรวจยัน "เอ็ม เอกชาติ" ยังไม่ถูกปล่อยตัว หลังขยายผลจับเมียคนที่สาม พร้อมทรัพย์สินกว่า 222 ล้าน ด้าน ปปง.เตรียมประสานสรรพากรสอบภาษีย้อนหลัง
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ แถลงผลการขยายผลคดี เอ็ม เอกชาติ อินฟลูเอนเซอร์สายแต่งรถจักรยานยนต์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชื่อดัง ผู้ต้องหาในความผิดสมคบกันฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ สามารถตรวจยึดทรัพย์สินทั้งของมารดาและภรรยารวม 3 คน และคนใกล้ชิดกว่า 222 ล้านบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่าการดำเนินการของตำรวจและ ปปง. มีพยานหลักฐานชัดเจน ถึงความเชื่อมโยงของเส้นทางการเงิน ที่โยงไปถึงบุคคลใกล้ชิด
จากนั้นจะมีการนำทรัพย์สินแปลงเป็นอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ และเครื่องประดับ แบรนด์เนมต่างๆ และนอกจากทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึดมาได้แล้วยังตรวจพบว่ายังมีทรัพย์สินบางส่วนที่มีการปกปิดและยักย้ายถ่ายเทไปยังบุคคลใกล้ชิดของเอ็ม เอกชาติอีก ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการอายัดและยึดทรัพย์สินดังกล่าว
ส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์และที่ดินสิ่งก่อสร้างในจังหวัดจันทบุรีเช่นกัน พร้อมกับยืนยันว่าสถานะของเอ็ม เอกชาติ ปัจจุบันยังถูกคุมขังในเรือนจำและไม่ได้รับการประกันตัว ตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด
สำหรับผู้ต้องหาที่จับกุมทั้งหมด 8 ราย พบว่าในจำนวนนี้เป็นภรรยาของ เอ็ม เอกชาติ 3 ราย มีทั้งภรรยาที่จดทะเบียนและไม่จดทะเบียนสมรส โดยพบหลักฐานความเชื่อมโยงกันทั้งหมดส่วนทั้ง 3 คนจะรู้จักกันหรือไม่ ตำรวจไม่มีข้อมูล รวมทั้งการโอนทรัพย์สินไปยังภรรยาแต่ละคน ตำรวจก็ยังไม่ทราบว่า มีการโอนให้คนใดคนหนึ่งก่อนเพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว
ขณะเดียวกันจากการสอบปากคำ น.ส.อริยาฯ ภรรยาคนที่สามของเอ็ม เอกชาติ ได้ให้การรับสารภาพว่าได้ถือครองทรัพย์สิน แทนเอ็ม เอกชาติจริง ส่วนถือครองแทนตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด แต่เชื่อว่า รู้ที่มาของทรัพย์สินว่าผิดกฎหมาย ตำรวจจึงมีการออกหมายจับและดำเนินคดี
ด้านนายกมลสิทฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขา ฯ ปปง. กล่าวว่าสำหรับมาตรการยึดทรัพย์ตามความผิดฐานฟอกเงิน ทางปปง.ได้ร่วมกับตำรวจ มีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ของเอ็ม เอกชาติ ตั้งแต่ครั้งที่ถูกดำเนินคดี ร่วมกับ เครือข่ายเว็บพนันของ "อั้ม-แยม"เมื่อปี 2565 จนสามารถยึดทรัพย์ได้กว่า 600 ล้านบาทส่วนที่เป็นของเอ็ม เอกชาติ มีประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ศาลได้มีคำพิพากษาสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินทั้งหมด
ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้รวมกว่า 222 ล้านบาท ปปง.จะประสานกับกรมสรรพากรในเรื่องของการตรวจสอบภาษี ว่ามีความสมดุลกับรายรับรายจ่าย ในการประกอบกิจการหรือประกอบธุรกิจของเอ็มเอกชาติหรือไม่ โดยปปง. ยืนยันว่าการตรวจยึดทรัพย์สินไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง จากเจ้าหน้าที่ เพราะฐานความผิดฟอกเงินสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้ย้อนหลังไปนับ 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดที่ถือครองทรัพย์สินของผู้ต้องหาก็จะสามารถยึดอายัดได้หมด
