“ทักษิณ” เผย “ทรัมป์” ขึ้นภาษีไทย เป็นการหว่านสูตรเดียว หวังเรียกเจรจาการค้า เชื่อทีมไทยพูดคุยคืบหน้า ยอมรับเศรษฐกิจแย่กว่าแต่ก่อน แต่เอาอยู่ มองหากจะลดภาษีนำเข้าเหลือ 0% ต้องทำทั้ง 2 ฝ่าย
(8 เม.ย.68) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการให้คำแนะนำ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยในอัตรา 37% ว่า วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจหนักกว่าเดิม มีปัญหาซ้ำเติมหลายอย่าง แต่ก็น่าจะเอาอยู่ ซึ่งต้องใช้เวลา จะไม่เร็วเหมือนสมัยก่อน เมื่อก่อนถ้าเศรษฐกิจเหมือนบ้านหลังหนึ่ง ก็เหมือนหลังคาพังซ่อมง่าย แต่วันนี้ปล่อยทิ้งไว้นานฐานรากมันแย่ เสาผุพัง ต้องใช้วิธีการซ่อมที่ยากขึ้น ใช้เวลามากขึ้น แต่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็น่าจะซ่อมแซมได้ดีขึ้น
นายทักษิณ ยังเชื่ออีกว่า การมีพรรคร่วมเยอะก็นานาจิตตัง บางทีเราก็ไม่สามารถชี้ให้เป็นทางเดียวกันทั้งหมด ต้องเข้าใจ แต่ก็ไม่เหลือวิสัย สามารถทำงานได้ นายกรัฐมนตรีก็คุยกับพรรคร่วมบ่อย ๆ ก็น่าจะคุยกันรู้เรื่อง
ส่วนได้วิเคราะห์หรือไม่ว่า ทำไมประเทศไทยจึงโดนขึ้นภาษีเยอะขนาดนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นลักษณะที่เขาใช้สูตรเดียว เราได้ดุลการค้าเขาเท่าไหร่ และสหรัฐฯ ขายให้เราได้เท่าไหร่ คิดเป็น % แล้วหาร 2 เช่นในกัมพูชาที่ขายได้นิดเดียว แทบจะไม่ได้ซื้อเลย ปาเข้าไป 90% แล้วหาร 2 มันเป็นลักษณะใช้สูตรเดียว แต่ทั้งนี้เขาเหวี่ยงสูตรนี้มาเพื่อการเจรจา ต้องการให้แต่ละประเทศเข้าไปเจรจา ซึ่งวันนี้รัฐบาลได้ติดต่อขอเจรจาแล้วน่าจะคืบหน้าไปด้วยดี น่าจะส่งตัวแทนไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีประชุมครม.วันนี้ก็น่าจะชัดเจนว่า จะส่งใครไปเจรจา
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้มีการแนะนำเรื่องการเจรจาอะไร ระบบภาษีระบบการกีดกันทางการค้าที่เราเคยมีในอดีตเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่ไม่เคยแก้ไขจนเขามีความรู้สึกว่า เรากีดกันเขามากเกินไป เช่น รถจักรยานยนต์ที่เขาผลิต “Harley–Davidson” (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน) มาแข่งอะไรกับคาวาซากิ ซูซูกิ ฮอนด้า ไม่แข่งหรอก แต่เราไปตั้งภาษีเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ ก็คงต้องมาปรับในส่วนของเรา แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะยอมไปเสียทุกอย่าง ลดภาษีเหลือ 0 ก็ได้ แต่ถ้า 0 ก็ต้อง 0 ทั้งสองฝ่าย
