อดีตสามีตามง้ออดีตภรรยาไม่สำเร็จ ขี่จยย.ตามถีบรถของอดีตภรรยา จนล้มคว่ำ ก่อนใช้มีดแทงภรรยา 8 แผลเสียชีวิต แล้วแทงตัวเองหวังจบชีวิตตาม แต่ไม่สำเร็จ ช่วยนำตัว ส่ง รพ.ทัน
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 มีนาคม 2568 ร้อยตำรวจเอกยุทธนา รบนิกร รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเลาขวัญ รับแจ้งเหตุแทงกันตายและบาดเจ็บ เหตุเกิดริมถนนสายบ้านบ่อยาง-บ้านน้ำคุ้ง หมู่ 1 ตำบลหนองโสน อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้ง จึงได้ประสานอาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ จุดเลาขวัญ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลเลาขวัญ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุ เป็นถนนสองเลนแบบแล่นสวนกัน พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีแดง กับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีดำขาว ล้มตะแคงอยู่บนถนน และพบร่างของผู้เสียชีวิตนอนหงายอยู่ข้างถนน สวมหมวกไอ้โม่งสีดำ ใส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อตแขนยาวสีฟ้าเข้ม นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา สวมรองเท้าแตะหูหนีบ มีบาดแผลถูกมีดแทงหลายแผลมีเลือดไหลเต็มตัว ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางสาวเนตรดาว อายุ 42 ปี นอกจากนี้ ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย นอนหายใจรวยรินอยู่ไม่ห่างกัน โดยผู้ได้รับบาดเจ็บ มีแผลถูกแทงที่ท้องหลายแผลจนไส้ไหลออกมา ทราบชื่อคือ นายณรงค์ฤทธิ์ อายุ 43 ปี อาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ จุดเลาขวัญ ทำการปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเลาขวัญ แต่เนื่องจากอาการสาหัส ทางโรงพยาบาลเลาขวัญจึงนำส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยควบคุมตัวในระหว่างรักษาตัวอย่างใกล้ชิด
จากการชันสูตรศพ พบว่า นางสาวเนตรดาว มีบาดแผลถูกมีดแทงทั้งตัวรวม 8 แผล ส่วนในที่เกิดเหตุพบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 6 นิ้ว ปลอกทองเหลืองด้ามไม้ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน เพื่อนของนางสาวเนตรดาวที่ขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกันให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ เคยเป็นสามีภรรยากัน และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับเพื่อนร่วมงาน โดยมีผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้ใช้เท้าถีบจนรถของผู้เสียชีวิตล้มคว่ำ ก่อนที่นายณรงค์ฤทธิ์จะลงไปใช้มีดปลายแหลมกระหน่ำแทงนางสาวเนตรดาวถึง 8 ครั้ง เป็นเหตุให้นางสาวเนตรดาว เสียชีวิตทันที ก่อนที่นายณรงค์ฤทธิ์จะใช้มีดเล่มเดียวกันแทงตัวเองอีกหลายครั้งเพื่อหวังฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ ก่อนอาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์จะช่วยกันนำตัวนายณรงค์ฤทธิ์ส่งโรงพยาบาล จนรอดชีวิตมาได้ดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการสอบถามเพื่อนของนางสาวเนตรดาว ให้ข้อมูลว่า นางสาวเนตรดาว เคยเป็นภรรยาของนายณรงค์ฤทธิ์ อยู่ด้วยกันมา 15 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 12 ปี แต่นายณรงค์ฤทธิ์ เป็นคนเกเร ชอบเสพยา ไม่ค่อยช่วยทำงาน และเคยถูกในคดีเสพยาเสพติด ทำให้นางสาวเนตรดาว ทำงานเลี้ยงลูกคนเดียวตลอด ประกอบกับ นางสาวเนตรดาว เป็นคนขยันทำกิน จึงขอเลิกกับนายณรงค์ฤทธิ์แล้วหนีไปทำงานที่อื่น
หลังนางสาวเนตรดาว เลิกกับนายณรงค์ฤทธิ์มาได้ประมาณปีเศษ นายณรงค์ฤทธิ์พยายามตามง้อหลายครั้ง แต่นางสาวเนตรดาว ไม่ยอมคืนดีด้วย ทำให้นายณรงค์ฤทธิ์คิดว่า นางสาวเนตรดาว มีคนอื่น กระทั่ง ช่วงฤดูตัดอ้อยมาถึง นางสาวเนตรดาว ได้กลับมาช่วยเถ้าแก่ตัดอ้อยในอำเภอเลาขวัญ เมื่อนายณรงค์ฤทธิ์ทราบข่าว จึงพยายามไปตามง้อขอคืนดีอีก 2 หน แต่นางสาวเนตรดาว ก็ไม่ยอมคืนดีด้วย โดยก่อนเกิดเหตุ หลังตัดอ้อยเสร็จ เถ้าแก่ได้ใช้ให้นางสาวเนตรดาวไปซื้อของให้มาทำอาหารเลี้ยงคนงาน โดยมีนางอโนทัย เพื่อนของนางสาวเนตรดาว รับหน้าที่ขี่รถไปให้ ระหว่างขี่รถไปตลาดจะผ่านบ้านของนายณรงค์ฤทธิ์ ซึ่งเมื่อนายณรงค์ฤทธิ์เห็น จึงได้ขี่รถตามมาเรียกให้จอด โดยอ้างว่า จะให้นางสาวเนตรดาวกลับไปเอารูปของแม่ที่บ้าน แต่นางสาวเนตรดาวไม่ยอมไปและให้นางอโนทัย ขี่รถหนี แต่ก็ถูกนายณรงค์ฤทธิ์ใช้เท้าถีบรถจนเสียหลักล้ม ก่อนใช้มีดจ้วงแทงนางสาวเนตรดาว จนเสียชีวิตดังกล่าว