สุดช็อก! เมียหลวงไตวายเฉียบพลัน เสียชีวิต ทั้งที่เมื่อวานผัวเพิ่งง้อคืนดี-หอมแก้มโชว์ หลังทะเลาะตัดสายไฟรถจยย.พ่วงข้าง เหตุผัวไปมีเมียใหม่ที่สาวกว่า สวยกว่า ลั่น “ชาติหน้าฉันใด ขอให้เราเกิดมาเป็นคู่กันอีก”
จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท ภายในบ้านเอื้ออาทร ต.เขาท่าพระ อ.เมืองชัยนาท รุดตรวจสอบพบ นายเก่ง อายุ 46 ปี และ นางวาสนา อายุ 56 ปี กำลังยืนเถียงกันยกใหญ่ แถมก่อนหน้า ฝ่ายชายจะเอาที่ชั่งกิโลขว้างใส่ ส่วนฝ่ายหญิงก็ยืนด่ากราด ซึ่งเหตุที่นายเก่งโกรธ เนื่องจากจะมาเอารถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปทำงาน แต่ฝ่ายหญิงไม่ให้ เพราะเลิกกันแล้ว และฝ่ายชายก็ไปมีเมียใหม่แล้ว สาวกว่า สวยกว่า จึงใช้โซ่ล็อกล้อและใช้มีดตัดสายไฟสวิตช์กุญแจ พอนายเก่งจะมาเอารถก็เอาไปไม่ได้ จึงมีปากเสียงกัน
หลังจากนั้น ช่วงเย็นวานนี้ (13 มี.ค. 68) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่อีกครั้ง พบนายเก่ง นำรถพ่วงข้างมาจอดหลังไปทำงานกลับมาบ้านตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนเมียนอนซมเพราะป่วยโรคเบาหวาน นายเก่งคอยดูแลประคบประหงมอยู่ใกล้ ๆ ไม่ห่าง พร้อมยืนยันควาสัมพันธ์ ยังรักกันเหมือนเดิม และได้หอมแก้มโชว์ผู้สื่อข่าวไป 1 ที
ซึ่งนายเก่ง เผยว่า ปรับความเข้าในกันหมดแล้ว เรื่องอายุไม่เกี่ยวแม้ว่าตอนนี้เมียจะแก่ จะมีโรคเยอะแต่ตนก็ยังรัก และสัญญาว่าจะคอยดูแลครอบครัวตลอดไป ส่วนเรื่องแฟนใหม่นั้น เมียหลวงอนุมัติให้คบกัน ไปมาหาสู่กันได้นาน ๆ ครั้ง ถือว่าเรื่องนี้จบกันด้วยดี
(
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผัวหอมแก้มเมียโชว์สื่อ เผยยังรัก-ขอดูแล ส่วนเมียน้อยบ้านใหญ่อนุมัติให้ไปต่อ)
ล่าสุด วันนี้ (14 มี.ค. 68) เมื่อเวลา 00.30 น. ที่ผ่านมา นางวาสนา เกิดช็อก จึงรีบพามารักษาที่ รพ.ชัยนาทนเรนทร จนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางวาสนา ได้เสียชีวิตจากอาการไตวายเฉียบพลัน ทำเอาหลาย ๆ คนช็อก เพราะเมื่อเย็นวานยังคุยกันดี ๆ และยังหอมโชว์ผ่านสื่อ คืนดีกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ นายเก่ง เปิดเผยว่า เมื่อคืนก็ยังคุยกันดี ๆ แต่เมียมีท่าทีเหมือนเป็นไข้ ตนก็ดูแลป้อนข้าวป้อนยา แล้วก็นอน จนมาตอนเที่ยงคืนเกิดช็อก บอกไม่มีเรี่ยวแรง ตนก็เสียใจที่เพิ่งกลับมาดีกันแต่ก็มาด่วนนจากไป โดยนางวาสนา ได้พูดเป็นลางไว้ก่อนตายช่วงหลายวันก่อนว่า “ถ้าชาติหน้าฉันใด ขอให้เราเกิดมาเป็นคู่กันอีก” ยืนยันว่ารักนางวาสนา เสมอ และขอยืนยันว่าจะดูแลลูกให้ดี พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่า “ถ้าชาติหน้าฉันใด ขอให้เราเกิดมาเป็นคู่กันอีก” เหมือนกับนางวาสนาที่พูดไว้ก่อนตาย