(11 มี.ค.68) มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ แถลงผลงานนั่งนายกสมาคมฯ ครบ 1 ปี และ แนวทางเรื่องคดี หลังศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง อ่านคำ พิพากษาศาลฎีกา จากปัญหาที่เกิดขึ้นของผู้บริหารสมาคมฯ ชุดเก่า ตั้งแต่ปี 2559
"มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล กล่าวถึง ประเด็นที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ถูกศาลฎีกาตัดสินให้แพ้คดี ที่ถูก บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท ฟ้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย กรณียกเลิกสัญญาการบริหารลิขสิทธิ์ ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น และหลังจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้ศึกษาประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 76 จึงตัดสินใจฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมฯ และสภากรรมการชุดเก่า เพื่อรับผิดชอบการบริหารงานที่ผิดพลาด โดยจะมีการเรียกประชุมสภากรรมการ เฉพาะกิจเร่งด่วน เพื่อขอมติอย่างเป็นทางการ
นอกจากการแพ้คดีต่อ บมจ. สยามสปอร์ต ซินดิเคท "มาดามแป้ง" ยังได้กล่าวถึง การบริหารที่ไม่โปร่งใสหลายส่วน ทั้งตอนที่เข้ามารับตำแหน่ง การเงินของสมาคม พบว่าเหลือเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสดเพียง 27 ล้านบาท แต่มีหนี้สินที่ต้องชำระอีกกว่า 132 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากยุคที่ "บิ๊กอ๊อด" ทำการกู้ยืมเงินระยะยาวจาก ฟีฟ่า มาใช้ในกิจการของสมาคมฯ ตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งจ่าย 10 งวด 10 ปี หักจากเงินสนับสนุนที่ได้รับจากฟีฟ่าปีละ 1.25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ขณะที่ตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไม่สามารถรับเงินเดือนได้ แต่ "บิ๊กอ๊อด" รับเงินเดือนจาก สมาคมฯ และ บ.ไทยลีก เดือนละ 1 ล้านบาท รวมทั้งหมด 32 ล้านบาท ซึ่งทาง พล.ต.อ.สมยศ ได้อ้างว่า ได้บริจาคคืนสมาคมแล้ว แต่จากการตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบเงินจำนวนนี้
รวมถึงค่าใช้จ่ายค่าทนาย ในการฟ้องร้องกับ บมจ. สยามสปอร์ต ซินดิเคท ที่มีการตกลงในศาลชั้นต้น จะจ่าย750,000 บาท ศาลอุทธรณ์และฎีกา ชั้นละ 300,000 บาท แต่กลับจ่ายค่าทนายในชั้นฎีกาสูงถึง 30 ล้านบาท
