อดีตพระยันตระ เสียชีวิตอย่างสงบที่สหรัฐอเมริกา ในวัย 73 ปี คณะศิษย์เตรียมรับร่างกลับมาบำเพ็ญกุศลในประเทศไทย
เฟซบุ๊กเพจของวัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด แคลิฟอร์เนีย ได้โพสต์รูปและข้อความเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ 9 มี.ค. 2025 ว่า พระยันตระ หรือ นายวินัย ละอองสุวรรณ ประธานสงฆ์ของทางวัด ได้เสียชีวิตแล้ว สิริรวมอายุ 73 ปี โดยโพสต์แจ้งข่าวดังกล่าวสร้างความเสียใจให้บรรดาลูกศิษย์และญาติโยมที่นับถืออดีตพระยันตระ และติดตามรอการับร่างอดีตพระยันตระกลับประเทศไทย
เช้าวันนี้ (10 มี.ค. 68) ผู้สื่อข่าวไปสังเกตการณ์ที่บ้านเกิดนายวินัย ละอองสุวรรณ หรืออดีตพระยันตระ ที่บ้านสุญญาคาร ชุมชนบ้านต้นหาด ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ภายในบ้านเงียบกริบ หลังญาติทราบข่าวการเสียชีวิต กำลังยุ่งอยู่กับการประสานนำร่างอดีตพระยันตระ กลับมาบำเพ็ญกุศล
เบื้องต้นว่า หากนำร่างอดีตพระยันตระกลับเมืองไทยอาจจะตั้งบำเพ็ญกุศลศพจัดงานที่เจ้าสำนักป่าสุญญตาราม สถานปฏิบัติธรรมชื่อดังที่อดีตพระยันตระไปพำนักใน ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะจัดงานศพที่ไหน ยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับบรรดาลูกศิษย์ เพื่อยืนยันสถานที่และเวลารับร่างอดีตพระยันตระที่ชัดเจน
แม่ชีมิตร อายุ 70 ปี ลูกศิษย์คนสนิทของอดีตพระยันตระ ที่พักอาศัยที่บ้านเกิดของอดีตพระยันตระ กล่าวว่า เช้าวานนี้เวลาที่ประเทศอเมริกา ลูกศิษย์ได้ไปเรียกอดีตพระยันตระไปฉันข้าว เมื่อเปิดประตุเข้าพบว่าอดีตพระยันตระ ละสังขารแบบสงบแล้ว ขณะนี้ลูกศิษย์และญาติกำลังประสานงานด้านเอกสารต่าง ๆ เพื่อเตรียมนำร่างกลับเมืองไทย สำหรับสาเหตุการละสังขารแบบกะทันหัน น่าจะเกิดจากโรคประจำตัวบางโรคของอดีตพระยันตระที่รักษามาหลายปี
สำหรับประวัติอดีตพระยันตระ นายวินัย ละอองสุวรรณ เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ปฏิบัติตนเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปีจนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ต่อมาได้อุปสมบทเป็นภิกษุในธรรมยุติกนิกาย เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 ณ พัทธสีมาวัดรัตนาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช พระวินัย เมื่ออุปสมบทมักใช้คำแทนตัวว่า พระยันตระ ซึ่งแปลว่าผู้ไกลจากกิเลส ที่เคยใช้มาตั้งแต่ยังเป็นฤๅษียันตระ เมื่อบวชแล้วเป็นที่รู้จักดีทำให้มีผู้ศรัทธาบวชเพื่อเข้าเป็นลูกศิษย์มากมาย ทำให้เขามักแวดล้อมไปด้วยพระสงฆ์คอยอุปัฏฐากอยู่เสมอ
นอกจากนี้ยังมีผู้ศรัทธาสร้างสำนักวัดถวายเขาหลายแห่ง โดยทุกวัดที่สร้างในสำนักเขาจะใช้คำว่า "สุญญตาราม" ประกอบด้วยเสมอ สำนักที่เป็นที่รู้จักดีคือ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี และยังมีสำนักวัดป่าสุญญตารามในต่างประเทศอีกหลายแห่ง เช่นที่ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น
ในปี 2537 อดีตพระยันตระ ถูกฟ้องร้องหลายข้อหาและถูกตั้งอธิกรณ์ว่าล่วงละเมิดเมถุนธรรมปาราชิกาบัติ อันเป็นหนึ่งในจตุตถปาราชิกาบัติที่ทำให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ โดยมีการต่อสู้ด้วยพยานหลักฐานมากมายตามสื่อต่าง ๆ เป็นข่าวโด่งดังในสมัยนั้น จนในที่สุดถูกมติมหาเถรสมาคมพิจารณาอธิกรณ์ปรับให้พ้นจากความเป็นพระภิกษุ แต่นายวินัยไม่ยอมรับมติสงฆ์ดังกล่าว ด้วยการปฏิญาณตนว่ายังเป็นพระภิกษุและเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ก่อนที่นายวินัยจะหลบหนีออกจากประเทศไทยไปอยู่ในสหรัฐอเมริกา และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง
