ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 68 เวลาประมาณ 16.40 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทิวา วรรณโกษิตย์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ครบุรี รับแจ้งเหตุพบชายเสียชีวิตอยู่กลางไร่มันสำปะหลัง ท้ายหมู่บ้านหนองมะค่า หมู่ที่ 9 ต.แชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิพุทธธรรมฮุก 31 ประจำจุด อ.ครบุรี
ที่เกิดเหตุพบมีเจ้าหน้าที่จาก อบต.แชะ อาสาสมัครกู้ภัย และชาวบ้านจำนวนมาก กำลังมุงดูศพของ นายนิ่ม อายุ 88 ปี อยู่ในสภาพนอนคุดคู้ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงขาสั้น อยู่กลางไร่มันสำปะหลัง โดยมีสุนัขเพศผู้ ขาหลังเปลี้ยอ่อนแรงทั้ง 2 ข้าง ชื่อ ”ดุ๊กดิ๊ก“ นอนเฝ้าศพไม่ยอมห่าง แม้ว่าตลอดทั้งวันอากาศจะร้อนจัดเกือบ 38 องศาเซลเซียส ก็ตาม และในช่วงที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำศพคุณตาขึ้นรถ เจ้าดุ๊กดิ๊ก ซึ่งกำลังหันไปกินน้ำ เมื่อหันกลับมาไม่เห็นศพคุณตา ก็พยายามเดินดมกลิ่นตามหา ซึ่งเป็นภาพที่จุกอกแก่ผู้ที่พบเห็นอย่างมาก ก่อนที่ทางคนในครอบครัวของคุณตาจะพาตัวเจ้าดุ๊กดิ๊กกลับบ้านในเวลาต่อมา
จากการสอบถาม น.ส.ลั่นทม อายุ 43 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า เพิ่งมารู้ว่าพ่อหายตัวไปเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. วันที่ 6 มี.ค. 68 หลังจากพี่ชายที่อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน มาแจ้งว่า พ่อน่าจะหายตัวไปเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา หลังจากที่พี่ชายได้กินยาเข้านอนไปแล้ว ส่วนตนอยู่บ้านอีกหลังที่ไม่ห่างกันมากนัก จึงรีบพากันออกตามหาทั่วรอบบ้านและในหมู่บ้าน แต่ก็ไม่พบตัว ก่อนจะแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ระดมจิตอาสาช่วยตามหา ซึ่งก็ได้รับวามร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้งทางเจ้าหน้าที่ อบต.แชะ ที่ช่วยประสานจิตอาสานำโดรนมาช่วยบินสำรวจทั่วบริเวณที่คาดว่าพ่อจะไปตลอดทั้งวัน ก่อนจะพบกับรอยเท้า และร่องรอยการหักต้นมันสำปะหลังเป็นทาง จึงใช้โดรนบินติดตามกระทั่งมาพบพ่อนอนเสียชีวิตอยู่กลางไร่มันสำปะหลังในที่สุด
น.ส.ลั่นทม บอกอีกว่า พ่อมีโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดัน ตามประสาผู้สูงอายุ และเริ่มมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ และมักจะบอกว่าอยากจะไปดูที่ทางที่ตัวเองเคยมีตามจุดต่าง ๆ แต่ก็ไม่เคยออกไปไกลจากบริเวณบ้าน จนกระทั่งมาในวันนี้คิดว่าพ่อน่าจะเดินออกจากบ้าน เพื่อที่จะไปดูที่ที่เคยเป็นของตัวเอง ซึ่งขายไปนานแล้ว แต่เกิดหลงทาง ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด และมีโรคประจำตัว จึงเป็นเหตุให้หมดแรงเสียชีวิตดังกล่าว
