ป.ป.ส. เปิดปฏิบัติการตัดไฟ ปูพรมค้น 6 จังหวัด ล่าตัวเครือข่ายส่งออกไอซ์ เฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์ 80 ล้าน ที่ให้เมียและบุคคลอื่นถือครองแทน
วันนี้ (5 มี.ค.68) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดปฏิบัติการ ตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 3 ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 10 จุดปฏิบัติการ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหมา สุพรรณบุรี อ่างทอง สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา และติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ 3 คน
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเครือข่ายส่งออกไอซ์ - เฮโรอีน ข้ามชาติ ซึ่งเป็นผลมาจากคดีการจับกุมเมื่อวันที่ 22 ต.ค.67 ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานภาคี จับกุมผู้ต้องหารวม 3 คน พร้อมเฮโรอีน 154 กิโลกรัม เหตุเกิดที่ จ.ชัยนาท ต่อเนื่อง จ.สุพรรณบุรี เครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ซุกซ่อนเฮโรอีนในช่องลับภายในรถตู้ โดยลักลอบลำเลียงมาจากพื้นที่ชายแดน ด้าน จ.เชียงรายเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ก่อนส่งต่อไปยังปลายทางประเทศที่สาม ในครั้งนั้นสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้กว่า 7.6 ล้านบาท
ต่อมาสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่ายส่งออกไอซ์ - เฮโรอีน ข้ามชาติ ได้อีก 2 คดี คือ วันที่ 27 - 30 กรกฎาคม 2567 จับกุมผู้ต้องหา 1 คน ไอซ์ 300 กิโลกรัม ยึดทรัพย์สิน 1 ล้านบาท และ วันที่ 15 - 16 กุมภาพันธ์ 2568 จับกุมผู้ต้องหา 3 คน ไอซ์ 500 กิโลกรัม ยึดทรัพย์สิน 9 ล้านบาท เป็นการสกัดกั้นการลำเลียงไอซ์-เฮโรอีนเกือบ 1 ตัน ก่อนจะถูกส่งต่อไปยังประเทศที่สาม รวมทั้งตรวจยึดทรัพย์สินประมาณ 18 ล้านบาท
จากการสืบสวนขยายผลพบว่าผู้สั่งการจัดหายาเสพติด และผู้ร่วมขบวนการ อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง ใช้ภรรยาและบุคคลอื่นถือครองทรัพย์สินแทน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับได้รวม 3 คน คือ นายเตชินท์ เป็นผู้สั่งการและจัดหายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน นายพรรคภูมิ เป็นผู้ดูแลด้านการเงิน และควบคุมการลำเลียงยาเสพติด นายฉมัง เป็นผู้ร่วมขบวนการในการลำเลียงยาเสพติด โดยรับคำสั่งการจากนายเตชินท์
ปฏิบัติการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายพรรคภูมิ ใน จ.สุพรรณบุรี ขยายผลตรวจค้นที่พักอาศัย ยึดอายัดทรัพย์สิน 22 ล้านบาท และในวันที่ 5 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นอีก 6 จุด ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท อาทิ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ ทองรูปพรรณ เงินในบัญชีธนาคาร ฯลฯ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติดในทุกระดับการค้า เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ รวมถึงกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดไปให้ถึงระดับผู้สั่งการ เพื่อจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สิน โดยเฉพาะผู้สั่งการที่มีศักยภาพในการจัดหายาเสพติดจากต้นทางประเทศเพื่อนบ้าน และใช้เครือข่ายผู้ลำเลียงชาวไทย ตลอดจนใช้บุคคลชาวไทยถือครองทรัพย์สินแทน
