ห้องข่าวภาคเที่ยง - เมื่อคืนศพเหยื่ออุบัติเหตุรถทัวร์ 18 ศพ เดินทางถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อำเภอพระเจริญ จังหวัดบึงกาฬแล้ว ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของญาติที่ไปรอรับศพ
สร้างเชิงตะกอนเผาเหยื่อรถทัวร์
เมื่อคืนทั้ง 18 ศพ เดินทางไปถึงที่วัด ตอนประมาณ 20.00 น. บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ให้ญาติผู้เสียชีวิตมายืนรอที่โลงเย็นที่ติดชื่อผู้เสียชีวิต เมื่อนำร่างลงจากรถกู้ภัย ก็ให้ญาติขานชื่อ ดูศพยืนยันตัวตน ก่อนจะนำศพลงบรรจุใส่โลง และนำไปไว้ในโลงเย็น เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งเมื่อคืนก็มีการสวดอภิธรรมคืนแรก
หลังสวดศพ ก็จะมีการแยกศพไปตามภูมิลำเนา โดย 13 ศพ จะอยู่รวมกันที่วัดป่าวิเวกธรรมคุณ, 4 ศพ จะแยกไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านเอียด และอีก 1 ศพ ไปที่วัดบ้านหนองกุงพัฒนาราม กำหนดสวดอภิธรรม 3 วัน จนถึงวันศุกร์ และวันเสาร์ จะมีพิธีฌาปนกิจ
ส่วนเมื่อช่วงเช้าที่วัดป่าวิเวกธรรมคุณ ญาติผู้เสียชีวิตต่างเข้าไปจุดธูปไหว้ศพพร้อมทั้ง จัดเตรียมข้าวปลาอาหารมา วางไว้ใกล้กับโลงศพ เพื่อผู้เสียชีวิตจะได้เดินทางสู่ภพภูมิที่ดีไม่หิวโหย พร้อมกับช่วยกันกางเต็นท์เพื่อบังแดด
สามีผู้เสียชีวิต เผยถึงลางบอกเหตุว่า ครั้งนี้ภรรยาไปแทนคนอื่น ก่อนจะเกิดเรื่องมีลางบอกเหตุ 2 เรื่อง เรื่องแรก ภรรยาไปเที่ยวและทำบุญที่โคราช หลังเสร็จงานก็ไปเที่ยวต่อ ระหว่างทางผ่าน "ศาลแม่ฮันนี่ ศรีอีสาน" จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนที่ไปด้วยไม่เป็นอะไร แต่ภรรยาขนลุกไปทั้งตัว พอกลับมากเล่าให้ตนเองฟัง จึงบอกให้ไปทำบุญ และก่อนจะเดินทางไปครั้งนี้ หลานสาวคนเล็ก ซึ่งอยู่อนุบาล ไม่ให้ย่าไป พยายามดึงแขนย่าไว้ตลอด
ทีมข่าวเราพูดคุยกับ พระครูวรวัฒน์ คณารักษ์ เจ้าคณะอำเภอพรเจริญ ฝ่ายมหานิกาย ประธานดำเนินการฝ่ายสงฆ์ บอกว่า กำหนดเผาศพช่วงบ่ายวันเสาร์ โดยวันนี้จะเริ่มสร้างเตาเผาแบบเชิงตะกอนเพิ่มอีก 12 เตา เพื่อช่วยเผาศพ ใช้พื้นที่ลานจอดรถบริเวณทิศตะวันออก สร้างเรียงเป็นสองแถว ระยะห่างกัน 6 เมตร ระยะห่างระหว่างร่างห่างกัน 4 เมตร เพื่อให้สามารถเดินเข้าออกได้สะดวก ส่วนเช้าวันอาทิตย์จะมีพิธีเก็บอัฐิ พร้อมกับทำบุญ อุทิศส่วนกุศล ให้กับผู้เสียชีวิตทั้งหมด
ส่วนเรื่องเงินเยียวยาผู้เสียชีวิต ตอนนี้ญาติจะได้รับคือ เงินประกันทั้งภาคสมัครใจ และภาคบังคับ จะได้ศพละประมาณ 1 ล้านบาท, เงินเทศบาลฯ ต้นสังกัดจะได้ศพละ 29,700 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัว จะได้เพิ่มอีก 1 เท่า คือ 59,400 บาท วันนี้ทางอำเภอได้เชิญญาติที่ตัดสินใจได้ไปพูดคุย เรื่องสิทธิต่าง ๆ ที่จะได้รับ ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ
แจ้ง 2 ข้อหา คนขับรถทัวร์มรณะ
ขณะที่ตำรวจบอกว่า จากการตรวจสอบใบขับขี่ประเภท ท.4 ของคนขับยังไม่หมดอายุ ส่วนผลการตรวจสารเสพติด และแอลกอฮอล์ ก็ไม่พบในร่างกาย นอกจากนี้ยังพบว่าก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงที่รถวิ่งมาถึงพื้นที่จังหวัดนครราสีมา ก็ได้เปลี่ยนตัวคนขับ จึงแสดงว่าคนขับได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
และยังพบว่าขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 03.09 น. รถวิ่งมาด้วยความเร็ว 91 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่ามีความเร็วสูง เพราะเป็นช่วงที่รถกำลังลงเขา เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหากับคนขับรถทัวร์คันเกิดเหตุ คือ ขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ส่วนคนเจ็บยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในจังหวัดปราจีนบุรี อีกเกือบ 30 คน
ครบไหม? ทรัพย์สินที่ญาติตามหา
นอกจากเรื่องที่ดำเนินคดี เมื่อวานก็มีประเด็นดรามาอีกเรื่อง คือทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตที่หายไปรถ ญาติบอกว่า ที่หายไปมีทอง 8 บาท 10 บาท และแหวนเพชร ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในกระเป๋าใบเล็กที่ใส่แยกออกมาจากกระเป๋าเดินทาง เหตุผลเพราะผู้เสียชีวิต มักจะกังวลกลัวจะหาย เลยชอบพกติดตัวเวลาไปไหนมาไหนด้วย ซึ่งทางญาติเขาไม่ได้สงสัยเจ้าหน้าที่กู้ภัยนะ แต่สงสัยว่าอาจตกอยู่ในรถไหม? หรือ มีใครที่พบเห็นช่วยเก็บมาให้หน่อย
ล่าสุดทรัพย์สินที่ญาติ โวยวายว่าสูญหายไป เอาเท่าที่ตำรวจตามเจอแล้วนะ มีสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น เงินสด 1,370 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ซึ่งทั้งหมดตกอยู่กับพื้นรถกระจัดกระจายอยู่ และได้รับการยืนยันจากลูกสาวของผู้เสียชีวิต ว่าทรัพย์สินที่บอกว่าหายไปมีเท่านี้จริง ๆ ซึ่งก็น่าจะจบแล้ว สรุปว่าที่ญาติอ้างว่ามีทอง 8 บาท 10 บาท อันนั้นน่าจะคลาดเคลื่อนกัน และแหวนเพชรก็เจอแล้วอยู่กับมือแม่
