สาวผวาหนัก! ถูกเพื่อนบ้านติดยา อาละวาด ปาจาน-ขวด ลั่นไม่กลัวตำรวจ พอโดนจับตีมึนบอกมีหมายค้นหรือไม่ ขณะที่ญาติผู้ก่อเหตุโวย รังแกประชาชน
26 ก.พ 68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ น.ส.น้ำหนึ่ง อายุ 37 ปี ผู้เสียหาย ชาว ต.หันสังข์ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจและหวาดผวา เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า ตนเองอยู่ที่บ้านดังกล่าวคนเดียว ส่วนแฟนนั้นไปทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่ง 2 เดือน จะกลับบ้าน 1 ครั้ง
สำหรับที่บ้านที่อยู่ปัจจุบันเดิมเป็นที่อยู่ของญาติแฟน ตนเองได้มาซื้อไว้ได้ประมาณ 3 ปี แต่ยังไม่ได้มาอาศัยอยู่ จะให้ญาติเฝ้าบ้านให้ และถูกนายทนงศักดิ์ อายุ 47 ปี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีบ้านติตกัน อาละวาดและขู่เผาบ้าน ญาติเคยไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ จนกระทั่งตนเองได้กลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวได้ประมาณ 1 ปี ก็ถูกนายทนงศักดิ์ อาละวาด ดาทอ แขวะมาตลอด ซึ่งตนเองไม่เคยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ แต่เนื่องจากผู้ก่อเหตุ ประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและชอบดื่มเหล้า พอเมาก็จะอาละวาดขว้างปาสิ่งของเข้ามาในบ้านตนเองตลอด จึงต้องติดกล้องวงจรปิด หาหลักฐาน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 ก.พ 68 ช่วงเวลา 22.30 น. เพื่อนบ้านก็ขว้างจานพลาสสติกเข้ามาในบ้านและไปค้างติดที่ สแลนหน้าบ้าน เมื่อเปิดดูกล้องวงจรปิดก็พบว่าเพื่อนบ้านขว้างจานเข้ามาในบ้าน และล่าสุด วันที่ 25 ก.พ. เวลา 19.10 น. เพื่อนบ้านขว้างขวดน้ำปลาเข้ามาในบ้าน โชคดีที่ตนเองไม่ได้ยืนอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ หากยืนอยู่ตรงบริเวณนั้นอาจจะถูกนศีรษะหรือใบหน้าก็เป็นได้
ตนเองจึงตะโกนถามชายเพื่อนบ้านว่าขว้างปาขวดเข้ามาในบ้านทำไม จากนั้นก็มีการโต้เถียงกัน ซึ่งตนเองจึงตะโกนไปว่าจะไปแจ้งความ แต่ชายดังกล่าว ตะโกนท้าทายบอก ไปแจ้งเลย ไม่กลัวตำรวจ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตนเองรู้สึกผวาและไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน เพราะไม่รู้ว่าวันดีคืนดีผู้ก่อเหตุจะบุกเข้ามาทำร้ายเมื่อไรก็ไม่รู้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยกับชีวิต
ด้าน น.ส.เอ เพื่อนบ้านอีกรายหนึ่ง บอกว่าตนเองก็ถูก นายทนงศักดิ์ อาละวาด เขวี้ยงขวดเข้ามาที่บ้านของตนเอง จนทำให้หลังคาแตก แต่ตอนนั้นทางญาติของผู้ก่อเหตุเข้ามาเคลียร์ พูดคุยขอให้ไม่เอาเรื่อง ตนเองก็ไม่ได้ไปแจ้งความ แต่ครั้งนี้ตนมองว่าผู้ก่อเหตุไม่มีความเกรงกลัวกฎหมายหรือไม่เกรงกลัวใคร ก่อเหตุอาละวาดชาวบ้านแถวนี้ไปทั่ว สร้างความเดือดร้อนจนทุกคนอยู่ไม่เป็นสุข จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านโชห่วย ผู้เสียหายอีกหนึ่งราย เล่าว่า ผู้ก่อเหตุมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมานานแล้ว จนคนละแวกนี้รู้ประวัติและฉายา แต่ทำอะไรไม่ได้ จนกระทั่ง เมื่อวานเย็น นายทนงศักดิ์ เข้ามาในร้านของตนเอง ขณะนั้นแฟนตนเองกำลังล้างจานอยู่หลังบ้าน จู่ ๆ ก็ขโมยเหล้าขาว 1 ขวด ปลาทู 1 เข่ง และก็ไข่ไก่ จากนั้นก็เดินออกจากร้านไปแบบหน้าตาเฉย แฟนของตนก็พยายามวิ่ง แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่ยอมหยุด เดินเข้าไปในบ้านหน้าตาเฉย แฟนของตนรู้สึกกลัวจึงไม่กล้าตามเข้าไป เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัยและถูกทำร้าย
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองจะได้เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ. บางปะหัน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุด พร้อมกับยกมือโมทนาสาธุอยากให้ผู้ก่อเหตุติดคุกนาน ๆ จะได้ไม่กลับมาก่อเหตุระรานคนอื่นอีก
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (26 ก.พ. 68) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางปะหัน ร่วมกับเจ้าหน้าฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.บางปะหัน เข้าจับกุมนายทนงศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ ที่บ้านพัก ซึ่งเมื่อผู้ก่อเหตุ เห็นเจ้าหน้าที่ตำตรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้ามาในบ้าน ก็ทำท่าทางตกใจแล้วพูดว่า "มาจับผมทำไม มีหมายค้นหรือไม่" เจ้าหน้าที่จึงสอบถามว่า ไปก่อเหตุอะไรมา แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่ยอมเอ่ยปากพูด จึงควบคุมตัวขึ้นรถไปสอบสวนต่อที่โรงพัก
โดยระหว่างการนำตัวขึ้นรถควบคุมตัวไปที่โรงพัก พบว่ามีญาติของผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาโวยวายพร้อมตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าตำรวจ ว่า รังแกประชาชน ถามว่าเข้ามาจับภายในบ้านมีหมายค้นหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองจึงอธิบายว่า ไม่ได้เข้ามารังแกประชาชน แต่เนื่องจากมีการได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหายเข้ามาว่า นายทนงศักดิ์ ไปก่อเหตุ ข่มขู่และอาละวาดเพื่อนบ้าน พร้อมสอบถามญาติของนายทนงศักดิ์ ว่า เสพยาเสพติดหรือไม่ ทางญาติก็ตะโกนออกมาว่า "เสพจริง ลูกของตนเองก็เสพ แล้วก็เสพมานานแล้ว" จากนั้นจึงยอมให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทนงศักดิ์ ไปสอบสวนต่อที่ สภ.บางปะหัน
เบื้องต้น จากการตรวจสอบปัสสาวะ พบเป็นสีม่วง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย ตรวจสอบพบมีหมายจับประวัติหนีหมายศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในรายงานตัว เกี่ยวกับยาเสพติด
