บัตรทองเป็นเหตุ ผู้ป่วยรอคิวทำฟัน 8 ปี วันนี้ (18 ก.พ.68) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า เรื่องนี้น่าจะเกิดจากข้อมูลที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการบริหารจัดการคิวบริการของโรงพยาบาลดังกล่าว แต่ในส่วนของระบบบัตรทองนั้น สปสช. ยืนยันในสิทธิประโยชน์บริการทันตกรรมที่ครอบคลุมเพื่อมอบให้กับประชาชนคนไทยผู้มีสิทธิทุกคน
หลังจากทราบข้อมูล สปสช. เขต 4 สระบุรี ได้พูดคุยกับผู้ป่วยแล้ว และได้ประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นนทบุรี เบื้องต้นจะนำผู้ป่วยเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลปากเกร็ด เนื่องจากสภาวะในช่องปากจำเป็นต้องได้รับการใส่ฟัน ขณะนี้ทาง สสจ.นนทบุรี ได้มีการประสานคิวบริการกับทาง รพ.ปากเกร็ด แล้ว เพื่อให้ผู้ป่วยเข้ารับบริการโดยใช้สิทธิบัตรทอง ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ทพ.อรรถพร ระบุว่า ธรรมชาติของการให้บริการทันตกรรม เป็นการรักษาที่ต้องทำหัตถการแทบทุกราย แต่ละเคสต้องใช้เวลามากน้อยขึ้นอยู่กับความยากง่าย จึงมีข้อจำกัดในการให้บริการประชาชนจำนวนมากในแต่ละวัน บอร์ด สปสช. จึงหาทางเพิ่มช่องทางการเข้าถึงการรักษา โดยการเชิญชวนคลินิกทันตกรรมเอกชนมาช่วยให้บริการทันตกรรมพื้นฐาน ได้แก่ อุดฟัน ถอนฟัน ขุดหินปูน เคลือบหลุมร่องฟัน และเคลือบฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นบริการที่มีความต้องการมาก เพื่อแบ่งเบาภาระของหน่วยบริการภาครัฐ ทำให้ทันตแพทย์เฉพาะทางได้มีเวลาให้การรักษาที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
ปัจจุบันมีคลินิกทันตกรรมเอกชนที่ขึ้นทะเบียนในระบบแล้ว 1,427 แห่ง ร่วมให้บริการ 30 บาทรักษาทุกที่ ที่ครอบคลุมบริการทันตกรรม 5 รายการ ดังนี้ 1. ขูดหินปูน 2. อุดฟัน 3. ถอนฟัน 4. เคลือบหลุมร่องฟัน และ 5. เคลือบฟลูออไรด์ โดยประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้ปีละ 3 ครั้ง
ส่วนกรณีการทำฟันเทียมและรากฟันเทียมนั้น ประชาชนสามารถติดต่อรับบริการโดยใช้สิทธิบัตรทองได้ที่ รพ.รัฐประจำอำเภอและ รพ.รัฐประจำจังหวัด (รพ.สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข) ทุกแห่ง