กลัวที่ไหน ? ฝ่ายปกครอง บุกทลายร้านบังท็อป เป็นครั้งที่ 4 ได้ของกลาง น้ำกระท่อม กัญชา บุหรี่เถื่อน และบุหรี่ไฟฟ้า เพียบมูลค่านับแสนบาท แต่ละครั้งที่ถูกจับกุมก็จะถูกแค่ปรับ รอลงอาญา
(17 ก.พ.68 ) นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ น.ส. อมร นามบุตร ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองศรีสะเกษ พร้อม นายศรายุธ สีละออง ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ อส. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองสาธารสุขเทศบาลเมืองศรีสะเกษ บุกตรวจค้นร้านบังท็อป ซึ่งเป็นร้านขายน้ำกระท่อม ยาแก้ไอ กัญชา บุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์การเสพ ให้กับกลุ่มวันรุ่นในตัวเมืองศรีสะเกษ เพื่อเป็นการป้องปรามการขายน้ำกระท่อมในพื้นที่ศรีสะเกษที่กำลังแพร่หลายในหลายพื้นที่ของจังหวัดศรีสะเกษ ทั้งใกล้สถานศึกษา และใกล้กับสถานที่ราชการ
ร้านบังท็อป เปิด 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นร้านใหญ่ในเขตตัวเมืองศรีสะเกษ ตั้งอยู่ในแหล่งชุมชน มีหอพักของนักศึกษา มากมาย และตั้งห่างจากมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เพียง 500 เมตร
สอบถามลูกจ้างที่รับเฝ้าร้าน บอกว่าได้ค่าจ้างชั่วโมงละ 35 บาท ทำเพราะไม่ได้เรียนหนังสือ และไม่มีงานทำ พอมีคนมาชวนเลยมาทำโดยไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย
ส่วนลูกจ้างอีกคน รับหน้าที่เป็นมือต้มน้ำท่อม ได้รับค่าจ้างต้มหม้อละ 80 บาท 1 หม้อจะกรอกใส่ขวด 1.5 ลิตรได้ประมาณ 70-80 ขวด และเอาไปขายขวดละ 45-50 บาท ใน 1 วันต้มได้ 7-10 หม้อ มีทั้งหมด 7 รสชาติ เช่น ต้มแบบรสดั้งเดิม, รสองุ่น, รสแอปเปิ้ล, รสลิ้นจี่, รสบลูฮาวาย, รสแตงโม และรสแคนตาลูป แต่ละรสชาติจะใส่ยาแก้ไอ้ ยาแก้แพ้ ลงไปด้วย
นอกจากนี้ชุดจับกุมยังได้บุกไปทลายห้องพักแห่งหนึ่ง ใกล้มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ถูกเช่าเก็บยาแก้ไอ บุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีกล้องวงจรปิดติดเอาไว้ดูความเคลื่อนไหว
จาการสอบถามคนดูแลห้องเช่า บอกว่าไม่ทราบว่าใครขอเปิดห้องเช่า แต่เช่าไว้ในราคาเดือนละ 1,500 บาท ต่อเดือน ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ มาขอเช่านานแล้ว ตนก็ไม่ได้ไม่สนใจว่าห้องดังกล่าวจะมีคนมาพักหรือไม่ รู้แต่เพียงว่าห้องดังกล่าวจะมีคนมาเปิดเข้าออกอยู่เป็นประจำ
ด้านนักศึกษา เล่าให้ฟังว่า ไม่นานมานี้ เคยแจ้งดจ้าของหอพักว่า ห้องข้าง ๆ มีกลิ่นเหม็นคล้ายกัญชา แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ตนเองก็ไม่กล้าบอกคนที่เข้าออกห้องนี้ เพราะมีแต่ผู้ชาย เลยต้องทนกลิ่นเหม็นแบบนี้มาตลอด
สำหรับการจับกุมครั้งนี้มีชาวบ้านมาร้องเรียน เป็นการจับกุมครั้งที่ 4 แต่ละครั้งที่ถูกจับกุมก็จะถูกแค่ปรับ รอลงอาญา จึงทำให้เจ้าของร้านกล้าที่จะกลับมาขายอีกครั้ง นอกจากนี้บุหรี่เถื่อนที่จับกุมได้ สังเกตได้ว่าจะขนส่งมาโดยใช้ ไปรษณีย์ไทย เขต 9 ส่งมายังหอพักที่เข้าจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจะได้รวบรวมหลักฐานและขอกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
