“วราวุธ” ย้ำ ขอทานผิดกฎหมาย วอน หยุดให้เงินด้วยความสงสาร หลังชาวบ้านแจ้งเบาะแส “ขอทานหน้าเหลว” หอบลูกจากกัมพูชา กลับมาขอทานซ้ำในเมืองกรุง เคยเป็นข่าวดังโกยเงินหลายแสน
หลังจากชาวบ้านร้องเรียน พบว่า “ขอทานหน้าเหลว” ซึ่งเคยเป็นข่าวโด่งดัง ขอทานจนมีเงินแสน ถูกส่งกลับกัมพูชาแล้ว ย้อนกลับมา กทม. ตระเวนขอทานในพื้นที่ย่านรามอินทรา
ล่าสุด (15ก.พ.68) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า หลังจากศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ได้รับรายงาน กรณีมีผู้พบเห็นหญิงขอทานที่มีใบหน้าเสียโฉม หรือขอทานหน้าเหลวพร้อมเด็กอีกหนึ่งคน กลับมานั่งขอทานอีกแล้วที่บริเวณตลาดรามอินทรา 21 เขตบางเขน กทม. หลังจากเคยถูกกวาดล้างไปแล้วก่อนหน้านี้ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบทันที
เจ้าหน้าที่ ศรส. ไม่พบหญิงขอทานและเด็ก พบเพียงผู้แสดงความสามารถ 1 คน ซึ่งมีบัตรแสดงความสามารถถูกต้อง แต่จากการสอบถามข้อมูลจากพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนในบริเวณนั้น ทำให้ได้ข้อมูลว่า ไม่พบหญิงขอทานและเด็กในบริเวณตลาดนี้มา กว่า 2-3 วันแล้ว ไม่รู้หนีกลับประเทศไปหรือไม่ หลังมีผู้ร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ แต่จะมีก็เพียงผู้แสดงความสามารถที่หมุนเวียนมาทำการแสดง ทีม ศรส. จึงฝากบอกพ่อค้าแม่ค้าหากพบเห็นหญิงขอทานและเด็กมานั่งขอทานที่บริเวณตลาดแห่งนี้ ขอให้แจ้งมาที่ สายด่วน พม. โทร. 1300 ของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม.
ในเบื้องต้น จากข้อมูลเดิมของหญิงขอทานและเด็ก ทราบว่าหญิงขอทานเป็นชาวต่างด้าว อายุ 41 ปี เข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ ใกล้ด่านถาวรบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี โดยตามองเห็นได้เลือนราง บนใบหน้ามีแผลเป็นจากเหตุการณ์แก๊สระเบิด อาศัยอยู่กับบุตรชาย อายุ 12 ปี มีรายได้จากการขอทานในประเทศไทย โดยจะไปนั่งขอทานบริเวณตลาดนัดต่างๆ แล้วหมุนเวียนไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม กระทรวง พม. มีการลงพื้นที่จัดระเบียบขอทานและคนเร่ร่อนอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรุงเทพมหานคร และหน่วนงานในพื้นที่ เนื่องจากการกระทำการขอทานนั้นผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ และตนย้ำเสมอว่าการแก้ปัญหาขอทานที่ดีที่สุดคือ เราต้องหยุดให้เงินขอทานด้วยความสงสาร ซึ่งหากพบเห็นขอทาน คนเร่ร่อนไร้บ้าน ขอให้โทรแจ้งมาที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ผ่านสายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
