คุกยาว ๆ รวบแล้ว! คนร้ายทำทีถามทาง ก่อนกระชากสร้อยทองคุณป้าวัย 54 ปี ในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา สารภาพเอาเงินไปผ่อนรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งถอยมาใหม่ และของขวัญวันวาเลนไทน์ให้แฟน
จากกรณี คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ไล่ตามป้าวัย 54 ปี ก่อนออกอุบายสอบถามเส้นทาง แล้วอาศัยจังหวะเผลอกระชากสร้อยทอง พร้อมพระเลี่ยมทอง หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 ก.พ. 68 บริเวณปากซอยข้างทาง บ.ไทยตาบูชิ ถนนเทพรัตน(บางนา-ตราด) กม.37 ช่องทางคู่ขนาน ขาเข้า กทม. หมู่ 5 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
(
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เตือนภัย! คนร้ายหลอกถามทาง ก่อนเอื้อมมือกระชากสร้อยทอง)
ล่าสุด วันนี้ (15 ก.พ. 68) หลังจากที่ พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้สั่งการให้พ.ต.อ.พงศ์สัณห์ มีศรี ผกก.สภ.บางปะกง ให้เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วน จนกระทั่งเวลา 12.00 น. ทางชุดสืบสวนสภ.บางปะกง ได้นำหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าจับกุมตัวนายนายฤทธิเกียรติ อายุ 24 ปี พร้อมรถจักรยานยนต์ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุพร้อมรถที่ใช้ก่อเหตุ
โดยจับตัวได้ที่แถวโรงงาน ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ซึ่งภายในกระเป๋าคาดเอวพบพระเครื่องที่ถูกแกะกรอบไปขาย ซึ่งเป็นพระจากเคสกระชากสร้อยคอทองคำปลอม ในพื้นที่สเม็ด จ.ชลบุรี
นายฤทธิเกียรติ สราภาพว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง เพราะต้องการนำเงินไปผ่อนรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งถอยมาใหม่ และนำเงินมาใช้จ่าย และที่สำคัญจะซื้อของขวัญให้แฟนสาวในวันวาเลนไทน์ ซึ่งครั้งที่ก่อเหตุที่กระชากสร้อยในพื้นที่เสม็ด ทีแรกนึกว่าได้ทองแล้ว 1 บาท แต่พอเอามาดูดี ๆ กลับเป็นทองปลอม เลยโยนทิ้งข้างทางทันที ก่อนจะออกตระเวนหาเหยื่อคนใหม่ จนมาขี่รถสวนนางนวลจันทร์ แล้วหางตาเห็นว่าน่าจะใส่สร้อยคอทองคำ เลยวกรถขี่ย้อนศรตามมาเพื่อทำทีถามทาง สุดท้ายก็ลงมือก่อเหตุกระชากสร้อย แล้วนำไปขายที่บางโฉลง จ.สมุทรปราการ โดยสร้อยคอทองคำที่ได้ไปขายได้ 18,000 บาทเท่านั้น เพราะมีน้ำหนัก 2 สลึง ไม่ใช่ 1บาท และไม่มีพระเลี่ยมทองด้วย
จากนั้น ก็ไปวิ่งราวคุณยายได้เงินมา 500 บาท ในพื้นที่เสม็ด จ.ชลบุรี เป็นเคสที่ 3 ก่อนถูกจับกุมตัว ซึ่งทางตำรวจได้นำตัวไปชี้จุด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ก่อนสอบสวนเพิ่มเติมควบคุมตัวดำเนินคดีต่อไป