เกาหลีใต้ เผยรายงานเบื้องต้นของเหตุสลดเครื่องบิน “เจจูแอร์” ตก-ไถลออกนอกรันเวย์ โดยเครื่องบินได้แจ้งเหตุเครื่องบินชนนก และมีการพบขนนก-คราบเลือดนกบนเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่อง
วันนี้ (27 ม.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการเกาหลีใต้ ซึ่งขณะนี้กำลังสอบสวนเหตุเครื่องบิน “เจจูแอร์” (Jeju Air) ตก เมื่อวันที่ 29 ธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 179 คน และมีผู้รอดชีวิต 2 คน ได้ส่งรายงานอุบัติเหตุเบื้องต้นไปยังหน่วยงานการบินของสหประชาชาติ และหน่วยงานของสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และไทยแล้ว
โดยทางการเกาหลีใต้เปิดเผยว่า การสืบสวนเหตุภัยพิบัติทางอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดของเกาหลีใต้ ยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง "เครื่องบินชนนก" แต่ยังไม่มีการยืนยันเวลาที่แน่นอนของเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เครื่องบิน “ได้แจ้งเหตุฉุกเฉิน (Mayday x 3) ว่าเกิดเหตุเครื่องบินชนนก ระหว่างบินวนรอบสนามบินก่อนจะลงจอด รวมทั้งนักบินที่สนทนาเกี่ยวกับฝูงนกที่พวกเขาพบเห็นระหว่างบินเข้าใกล้รันเวย์เป็นครั้งสุดท้าย โดยรายงานยังระบุว่า “มีการตรวจสอบเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่อง และพบขนนก และคราบเลือดนกบนเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องด้วย”
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า เครื่องระบุตำแหน่งช่วยนำทางเครื่องบินที่กำลังบินเข้าใกล้รันเวย์ และโครงสร้างที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก และดิน ที่ท่าอากาศยานมูอัน เพื่อรองรับเสาอากาศของระบบ น่าจะเป็นอีกสาเหตุของภัยพิบัติครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ในรายงานไม่ได้ระบุว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบันทึกข้อมูลทั้งสองเครื่องหยุดบันทึกพร้อมกัน ก่อนที่นักบินจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ (Mayday) เมื่อเครื่องบินอยู่ที่ระดับความสูง 498 ฟุต ขณะบินด้วยความเร็ว 161 น็อต หรือ 298 กม./ชม.
ทั้งนี้ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ กำหนดให้ผู้สอบสวนอุบัติเหตุต้องจัดทำรายงานเบื้องต้นภายใน 30 วันหลังเกิดอุบัติเหตุ และสนับสนุนให้เปิดเผยรายงานฉบับสุดท้ายภายในเวลา 12 เดือน
