วันนี้ (22 ม.ค. 68) นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมเป็นประธานสักขีพยานในพิธีส่งมอบ-รับมอบ ความรับผิดชอบการบริหารท่าอากาศยานตาก จากกรมท่าอากาศยานให้ กับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นผู้บริหารจัดการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เพื่อใช้เป็นศูนย์หลักในการปฏิบัติการบินดัดแปรสภาพอากาศ เพื่อใช้สำหรับปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ดับไฟป่า และแก้ไขปัญหา PM 2.5
นางมนพร กล่าวว่า การมอบความรับผิดชอบการบริหารท่าอากาศยานตาก ให้กับ กรมฝนหลวงฯ ไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน เนื่องจากท่าอากาศยานตากไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์ทำการบินแบบประจำ ประชาชนและผู้โดยสารที่เดินทางไปยังจังหวัดตากและพื้นที่ใกล้เคียง ยังคงสามารถใช้บริการท่าอากาศยานแม่สอด ซึ่งทำหน้าที่เป็น Local Airport ของภาคตะวันตก และมีเที่ยวบินพาณิชย์ให้บริการแบบประจำได้อย่างต่อเนื่อง
โดยเที่ยวบินทั่วไปที่เคยให้บริการที่ท่าอากาศยานตากจะถูกส่งเสริมให้ย้ายไปใช้บริการที่ท่าอากาศยานแม่สอดแทน ซึ่งการดำเนินการนี้จะช่วยให้โครงสร้างพื้นฐานของรัฐทั้งสองแห่งสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุดและสามารถจัดสรรงบประมาณสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้องกับภารกิจที่เหมาะสมต่อไป
ด้าน นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า การพัฒนาท่าอากาศยานตากยังเป็นต้นแบบสำหรับท่าอากาศยานอื่นที่ไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์ โดยอาจปรับบทบาทให้รองรับเฉพาะเที่ยวบินทั่วไป (General Aviation) เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน และลดภาระการบริหารจัดการของกรมท่าอากาศยาน รวมถึงลดภาระด้านงบประมาณที่รัฐบาล
จากข้อมูลสถิติการใช้ท่าอากาศยานตากในปี 2566 มีเที่ยวบินทั้งหมด 312 เที่ยว ซึ่งทั้งหมดเป็นการปฏิบัติภารกิจฝนหลวงทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากนี้กรมท่าอากาศยานจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎกระทรวงการใช้ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2563 เพื่อขอคืนการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานตาก โดยให้กรมฝนหลวงฯ เป็นผู้ใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุและอาคารราชพัสดุต่อไป และจัดอัตรากำลังของท่าอากาศยานตากที่ปัจจุบันมีอยู่ 3 อัตราไปปฏิบัติงานท่าอากาศยานอื่น
