เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อครู่ดูภัยหนาวยังไม่คลาย แต่ภาคใต้ก็ใช่ย่อยเพราะสภาพอากาศก็แปรปรวนหนัก เจอทั้งฝนตก คลื่นลมในทะเลพัดแรง ซัดเข้าฝั่งจนเกิดความเสียหายอย่างหนัก บางพื้นที่ชาวบ้านต้องเคลื่อนย้ายโลงศพหนีกันโกลาหล
คลื่นสูงกว่า 3 เมตร ถล่มชายฝั่งอ่าวไทย
วิ่งวุ่นกันเลย เพราะทั้งลมทั้งคลื่นขนาดใหญ่ซัดไม่ยั้ง จนบ้านเจ้าภาพงานศพ ถึงขั้นต้องประคองโลงศพไว้ไม่ให้ล้มคว่ำ ก่อนจะเร่งย้ายจุดตั้งโลงศพไปทำพิธีทางศาสนาที่หมู่บ้านอื่น โดยเหตุนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านริมทะเลในตำบลท่าพญา อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังมีน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งชาวบ้านก็บอกว่า ไม่เคยเจอน้ำทะเลหนุนสูงและคลื่นลมที่แรงขนาดนี้มาก่อน
ส่วนที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ก็ถูกคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดเข้าฝั่งจนถึงบันไดของรีสอร์ตจนเกือบจะทรุดลงในทะเล แนวชายหาดก็พังเป็นแนวยาว แต่เคราะห์ดีนักท่องเที่ยวเช็กเอาท์ออกไปแล้ว ทำให้ไม่มีคนบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งตามความเชื่อของชาวบ้านบอกว่า วันนี้ (13 ม.ค.) คลื่นจะมีความรุนแรงมากกว่านี้อีก เพราะเป็นวันแรม 15 ค่ำ คืนพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทีี่เกิดขึ้นทุกปี
คลื่นซัดถล่มเสียหาย 7 อำเภอ
ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ไม่ใช่ย่อย รีสอร์ต ในอำเภอไชยา ซึ่งเป็น 1 ใน 7 อำเภอ ที่เกิดการความเสียหายพังเพราะ คลื่นลมแรงโดยสูงสุดเกือบ ๆ 3 เมตร เป็นแบบนี้ตลอดทั้งวัน ซึ่ง นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ฯ ก็สั่งให้ เจ้าหน้าที่ ทุกอำเภอ ลงพื้นที่ติดตามและประเมินพื้นที่เสี่ยง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นก็ให้อพยพชาวบ้านทันที รวมทั้งกำชับเรือให้บริการ นักท่องเที่ยว ติดตามสถานการณ์ ถ้าไม่ปลอดภัยงดออกเรือเด็ดขาด
ปักธงแดงห้ามเล่นน้ำทะเล
ส่วนที่่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็ปัักธงแดงริมชายหาดตลอดแนวกว่า 200 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่ชายหาดอำเภอหัวหิน ถึงอำเภอบางสะพานน้อย เนื่อจากคลื่นสูง 2-3 เมตร พัดเข้าชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณชายหาดปราณบุรี น้ำทะเลขุ่นสีคล้ำ สภาพอากาศค่อนข้างปิด จึงห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายที่จะเกิดขึ้น
ขอบคุณภาพจาก : Facebook จตุพล พุทถนอม
