รวบไอ้หื่นเสพยาบ้า-ซัดไวอากรา ฉุดเด็ก ม.4 ขึ้นรถ เคราะห์ดีตำรวจตามรวบทัน

View icon 789
วันที่ 27 ธ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หนุ่มหื่นเสพยาบ้า-โดปไวอากรา ฉุดนักเรียนหญิง ม.4 ขึ้นรถเก๋ง เคราะห์ดีตำรวจแกะรอย GPS ตามรวบทัน เจ้าตัวอ้างทำไปเพราะเหงา ต้องการความอุ่นใจ

วันนี้ (27 ธ.ค. 67) พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ว่า มี น.ส.เอ (นามสมมติ) นักเรียนมัธยมศึกษาปี 4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองชุมพร เข้ามาแจ้งเหตุว่า น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็รเพื่อนสาวของตน ถูกชายฉุดกระฉากขึ้นรถยนต์เก๋ง โตโยต้า สีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ที่บริเวณห้าง Ocean Shopping Mall ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร โดยเพื่อนของตนได้ส่ง GPS มาเพื่อให้ติดตาม และพบสัญญาณเคลื่อนตัวไปทางชายทะเลพนังตัก ต.นาชะอัง จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ปิยพล ฉัตรภูมิ สว.สืบสวน.สภ.เมืองชุมพร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร ออกติดตาม

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถไปถึงบริเวณสามแยกไฟแดง หน้าศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร สังเกตเห็นรถเก๋งต้องสงสัยคล้ายกับรถที่ทาง น.ส.บี แจ้งไว้ จอดติดไปแดงอยู่ เจ้าหน้าที่จึงจอดรถก่อนวิ่งไปที่รถยนต์คันดังกล่าว พบคนขับเป็นผู้ชาย และที่เบาะนั่งด้านหน้าซ้ายพบ เด็กนักเรียน สวมชุดกีฬา อยู่ในอาการตกใจตัวสั่น ได้เปิดประตูรถหนีแล้ววิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวชายคนขับไว้ ทราบชื่อภายหลังคือ นายประสิทธิ์ อายุ 34 ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองชุมพร

จากการสอบสวน นายประสิทธิ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเห็น น.ส.บี ตั้งแต่แม่ของเหยื่อขี่รถจักรยานยนต์มาส่งที่หน้าโรงหนัง และรอจนแม่ของเหยื่อขี่รถออกไป ตนจึงได้ขับรถยนต์เข้าไปจอดเทียบก่อนจะทำทีเอาเอกสารให้เหยื่อช่วยอ่าน อ้างว่าอ่านไม่ออก เมื่อ น.ส.บี อ่านเอกสารให้ ตนจึงชวนไปนั่งรถเล่น โดยไม่ได้ฉุดเพียงแต่จูงมือและผลักให้ขึ้นรถ ก่อนจะขับรถยนต์ออกไป โดยมุ่งหน้าไปที่ชายทะเลหน้าอ่าวพนังตัก เพราะบริเวณนั้นเงียบ

นอกจากนี้ยัง นายประสิทธิ์ อ้างว่า ที่ทำไปก็เพราะว่าเหงาและต้องการความอุ่นใจ โดยไม่ได้คิดอะไร ต้องการพามานั่งรถเล่นเฉย ๆ และตอนอยู่บนรถก็แค่จับตัวน้อง และหอมแก้มเท่านั้น ไม่ได้คิดจะข่มขืนหรือลวนลามแต่อย่างใด แต่เมื่อน้องขัดขืน ตนก็ขับรถจะพาน้องไปที่ห้องพัก แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน และยอมรับว่าเสพยาบ้ามา

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดก็พบว่า เป็นสีม่วง จึงได้นำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพัก พบถุงพลาสติกสีฟ้าภายในมีเศษยาบ้าติดอยู่ก้นถุง วางอยู่กับอุปกรณ์การเสพยาบ้า นอกจากนี้ยังพบยาระบุชื่อ “ไวอากรา” ซึ่งถูกกินไปแล้ว 2 เม็ด ยังเหลือติดแผง 2 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงไว้เป็นหลักฐานก่อนทำการบันทึกจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “มีสารเสพติดในร่างกายและเสพยาเสพติดขณะขับรถ” และหลังจากทำการสอบสวน น.ส.บี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายประสิทธิ์ เพิ่ม ความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจและกักขังหน่วงเหนี่ยว” ส่งดำเนินตามกฎหมายต่อไป