เช้านี้ที่หมอชิต - เก้าอี้ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ก็แว่ว ๆ มาแล้วว่า กฤษฎีกาชี้ปมกรณีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ขาดคุณสมบัติในการนั่งตำแหน่งนี้แล้ว เนื่องจากเคยเป็นประธานที่ปรึกษา ของอดีตนายกฯ เศรษฐา ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ก็มีรายงานที่ประชุมกฤษฎีกา 3 คณะกฎหมาย ได้พิจารณาข้อมูลของ นายกิตติรัตน์ ทั้งหมดแล้วว่า "ไม่ผ่าน" ซึ่งก็แว่ว ๆ ว่า มีการประชุมเรื่องนี้ไปแล้วตั้งแต่ 24 ธันวาไม่ได้เพิ่งมาประชุม และมีการเคาะกันวานนี้
สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่ นายกิตติรัตน์โพสต์บอกว่า ไม่ค้างคาใจอะไรแล้วอาสาทำหน้าที่ดีแล้ว ยิ่งตอกย้ำว่าเรื่องนี้อาจจะจริง
พอบังเอิญพบเจ้าของกระทรวงคลัง นายพิชัย ชุณหวิชร ที่มาร่วมประชุม กพช. ที่ทำเนียบฯ จึงรีบจ่อไมค์ถามตอบกลับสั้น ๆ ขอรอดูก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน
แต่ที่ชัดเจนก็ นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. โพสต์บอกว่า กฤษฎีกามีมติเป็นเอกฉันท์ให้นาย กิตติรัตน์ ขาดคุณสมบัติ พร้อมขอบคุณกฤษฎีกาทั้ง 3 ชุด ช่วยสร้างบรรทัดฐานกฎหมายมิให้นักการเมืองตะแบงตีความอีก
ส่วน นาย เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ก็จี้ นายกฯ แพทองธาร ให้ขอโทษสังคม เพราะก่อนหน้านี้ได้เตือนแล้ว แต่ยังดื้อตาใส ดึงดันจะส่งนายกิตติรัตน์ นั่งเก้าอี้ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ให้ได้ สุดท้ายส่อวืดจึงแนะให้จับตาจะส่งใครนั่งเก้าอี้นี้แทน
ขณะที่ นายกฯ แพทองธาร ก็กล่าวถึงเรื่องนี้สั้น ๆ ว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวน ฟังคำตอบแล้วก็แผ่นเสียงตกร่องจากที่เคยพูดไว้เมื่อ 24 ธันวาคม
แต่ถ้ามองเคสของนายกิตติรัตน์ ที่ขาดคุณสมบัติ เพราะเคยเป็นประธานที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งถ้ายังจำได้ 3 คน ที่เป็นแคนดิเดต จะเห็นว่ามี นายกุลิศ สมบัติศิริ ซึ่งก็มีสถานะเดียวกับนายกิตติรัตน์ คือ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ก็จะเหลือเพียงนายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่กระทรวงการคลัง ก็น่าจะเสนอชื่อคนใหม่เข้าไป ก็คงต้องจับตากันต่อว่า แคนดิเดตจะเป็นใคร
