ในคืนวันคริสต์มาสอีฟที่ผ่านมา มีการจัดพิธีทางศาสนาคริสต์ในศาสนสถานที่สำคัญหลายแห่งทั่วโลก รวมทั้ง การส่งคำอวยพรมาจากนอกโลกด้วย
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงร่วมพิธีมิสซาในคืนวันคริสต์มาสอีฟ ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร (St. Peter's Basilica) ในนครรัฐวาติกัน โดยตรัสเปรียบเทียบเรื่องราวของพระเยซูที่ประสูติมาเป็นลูกช่างไม้ผู้ยากจน ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวควรเป็นสิ่งปลูกฝังความหวังว่าทุกคน ก็สามารถสร้างผลกระทบต่อโลกได้
ขณะที่ ปีหน้าจะนับเป็นปีศักดิ์สิทธิ์ของชาวคาทอลิก (Catholic Holy Year) ที่จะมีขึ้นในทุก 25 ปี ถือเป็นช่วงเวลาแห่งสันติภาพ การให้อภัย และอโหสิกรรม ซึ่งจะมีผู้แสวงบุญเดินทางมายังกรุงโรม วันละนับแสนคนเพื่อขอไถ่บาป
ส่วนที่เมืองเบทเลเฮม (Bethlehem) ในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ประสูติของพระเยซู มีการจัดพิธีมิสซา ที่โบสถ์พระคริสตสมภพ (Church of the Nativity) ท่ามกลางภาวะสงครามในฉนวนกาซาที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่ไกล โดยปีนี้มีเพียงการประกอบพิธีทางศาสนาเท่านั้น ไม่มีการประดับตกแต่งคริสต์มาสตามท้องถนนเหมือนเช่นปีที่ผ่าน ๆ มา
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้ส่งคำอวยพรคริสต์มาส พร้อมกับเปิดเผยภาพการประดับตกแต่งภายในทำเนียบขาว โดยผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า คริสต์มาสยังคงมีพลังที่จะสร้างกำลังใจ นำผู้คนมารวมกัน ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงชีวิต และเปลี่ยนแปลงโลก นอกจากนี้ เขายังอวยพรทุกคนและครอบครัวให้มีแต่ความสงบสุข ความสำราญ สุขภาพแข็งแรง และความสุข
ขณะที่ นักบินอวกาศบนสถานีอวกาศนานาชาติ "ไอเอสเอส" ISS ได้ร่วมส่งคำอวยพรคริสต์มาสให้กับทุกคน รวมทั้งคนที่ต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัวและคนที่รัก ด้วยหน้าที่ต่าง ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ เช่นเดียวกับนักบินอวกาศ 7 คน ที่ต้องฉลองคริสต์มาสร่วมกันไกลถึงนอกโลกในปีนี้
ไปดูบรรยากาศสนุก ๆ กันบ้าง ที่กรุงลอนดอน ของอังกฤษ มีประชาชนไปรวมตัวกันอย่างแน่นขนัด เพื่อร่วมประมูลเนื้อตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันในช่วงวันคริสต์มาสอีฟ มายาวนานหลายทศวรรษ โดยผู้เข้าร่วมประมูลพากันชูเงินสด 10 ปอนด์ สำหรับไก่งวง และ 30 ปอนด์ สำหรับเนื้อซี่โครง เพื่อหวังว่าจะเป็นผู้ถูกเลือกให้ชนะการประมูลเนื้อสัตว์ต่าง ๆ กลับไปทำเมนูเพื่อฉลองวันคริสต์มาส
