จับตาสมัคร นายก อบจ.ทั่วประเทศ

View icon 13
วันที่ 24 ธ.ค. 2567
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - การสมัครชิงนายก อบจ. วันแรก 47 จังหวัด ไม่แผ่ว กับสนามการเมืองท้องถิ่น ซึ่งก็คึกคักทุกจังหวัด มีทั้งสีสัน มีทั้งที่ต้องจับตา มีทั้งการใช้วาทะเกทับ บลัฟกัน เพื่อหมายมั่นชิงคะแนนเสียงจากประชาชน จนคว้าชัยมาครองในสนามนี้

ที่จังหวัดปราจีนบุรี หนีไม่พ้นการถูกสปอตไลต์ ที่ทุกคนต่างจับจ้องในพื้นที่นี้ เพราะบ้านใหญ่อย่าง "โกทร" นายสุนทร วิลาวัลย์ ที่ครองแชมป์มาหลายสมัย ขณะนี้ถูกดำเนินคดียิง "สจ.โต้ง" เสียชีวิต ซึ่งบรรกาศการรับสมัครเลือกตั้ง นายก อบจ.ปราจีนบุรี ก็มีผู้สมัครท้าชิงเก้าอี้จำนวน 4 คน ที่ทยอยมาลงสมัครตั้งแต่ช่วงเช้า บางส่วนมีประชาชนในพื้นที่ ผู้ติดตาม เดินทางมาให้กำลังใจ

แต่ที่เรียกเสียงฮือฮา สร้างสีสัน คือ นางสาวพัสศมน เทศยุคุณธร ที่มาสมัครสมาชิกสภา อบจ. ด้วยการสวมเสื้อเกราะ พร้อมบอกว่าเป็นคอนเทนต์ให้เข้ากับสถานการณ์ช่วงนี้เท่านั้น เพราะเสื้อเกราะที่ใส่ ก็ไม่ได้มีแผ่นเหล็กป้องกันกระสุนแต่อย่างใด

ส่วนอีกคนที่เป็นที่จับตาอย่างมาก นางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ "สจ.จอย" ที่มาลงสมัคร โดยสวมเสื้อแจ็กเก็ตพรรคเพื่อไทย มาพร้อมกับลูกชายที่มาให้กำลังใจ ซึ่งก่อนหน้ามาสมัคร "สจ.จอย" ก็ไปบอก "สจ.โต้ง" สามี ช่วยเป็นกำลังใจด้วย

ส่วนที่จังหวัดสระบุรี เข้าสู่โหมดเข้มไม่แพ้จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งแต่เริ่มรับสมัครเช่นกัน เพราะมีผู้สมัครมากถึง 19 คน จึงกำหนดกติกา โดยการจับสลากครั้งที่ 1 คือ การจับว่าใครจะได้หมายเลขใด ระหว่าง 1-19 จากนั้นจะจับสลากครั้งที่ 2 เพื่อให้ทราบว่าใครจะเป็นผู้ยื่นหลักฐานการรับสมัครลำดับ 1-19 หากตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เป็นที่ถูกต้อง ก็จะได้เบอร์ประจำตัวผู้สมัครทันที

แต่ในขั้นตอนนี้มีผู้สมัครนายก อบจ.บางคน สละสิทธิ์ ไม่ขอจับสลาก ทำให้ผู้ที่เหลือจับสลากครั้งที่ 2 เกิดความไขว้เขว ไม่พอใจ เพราะเข้าใจว่าจะต้องจับสลากอีกครั้ง เพื่อให้ได้เบอร์ประจำตัวผู้สมัคร จึงเกิดปากเสียงขึ้น

หลังความวุ่นวาย กกต. ก็ไกล่เกลี่ยหาทางออก ให้ผู้สมัครนายก อบจ.สระบุรี ทั้ง 19 คน พร้อม กกต.ทั้งหมด เข้าห้องประชุมเล็ก โดยห้ามผู้ติดตาม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้า โดยใช้เวลา 30 นาที ก่อนจะเดินยิ้มร่าออกมา พร้อมข้อตกลงกันได้ว่า นายประสิทธิ์ ได้เบอร์ประจำตัวผู้สมัคร หมายเลข 1, นายสุฑฒิชัย ได้หมายเลข 2  ส่วน นายสัญญา ได้หมายเลข 5 เป็นหมายเลขเดียวกับครั้งที่แล้ว โดยทั้ง 3 ผู้สมัคร ถือเป็นตัวเต็งในการแข่งขันนายก อบจ.สระบุรี ครั้งนี้

ขึ้นไปภาคเหนือ อย่างจังหวัดเชียงใหม่ คึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนถึงเวลาเปิดรับสมัคร 08.30 น. จากการที่บรรดาผู้สนับสนุนผู้สมัครแต่ละรายต่างพากันมารอให้กำลังใจ เบื้องต้นมีผู้สมัครชิงเก้าอี้ นายก อบจ.เชียงใหม่ 2 คนสำคัญ คือ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ "สว.ก๊อง" อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย

และ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อดีต ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ที่ลงสมัครในนามพรรคประชาชน ทำให้เมื่อถึงเวลาเปิดรับสมัคร ก็ต้องใช้วิธีจับสลาก เพื่อให้ได้หมายเลขผู้สมัครที่จะนำไปใช้ในการหาเสียง ผลพบว่า นายพันธุ์อาจ ได้หมายเลข 1 และนายพิชัย ได้หมายเลข 2

แต่สปอตไลต์ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ไปอยู่ที่ผู้ช่วยหาเสียง ทั้งพรรคแดง และพรรคส้ม ที่ฟาดกันดุเดือดมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะทั้งคู่ลงพื้นที่พร้อมกัน

ที่ฝั่งแดง ซึ่งก็มีนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ และขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงเย็น ช่วย นายพิชัย หรือ สว.ก๊อง อู้กำเมือง ทวงคะแนนจากชาวเชียงใหม่

ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายพันธุ์อาจ ก่อนหน้านี้ช่วงลงพื้นที่ตลาดวโรรส ก็ถูกสื่อถามถึงผลเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลราชธานี ที่ผู้สมัครจากพรรคประชาชนพ่ายไป ว่าคงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี กับภาคอีสาน หรือภาคเหนือ ภาคใต้ ได้ เพราะแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน โดยทีมกลยุทธ์ ทีมยุทธศาสตร์ ก็คงจะมาพูดคุยกันในช่วงปีใหม่ เพื่อขยับหมาก หรือปรับทัพอย่างไรในการเข้าสู่ศึก 1 กุมภาพันธ์ ปีหน้า

แม้การเลือกตั้งปี 2566 ที่พรรคก้าวไกลได้กวาด สส.เชียงใหม่ ได้ 7 คน แต่นายพิธาก็เห็นว่า ไม่ได้หมายความว่าจะแปรมาเป็นคะแนนในการเลือกตั้ง นายก อบจ.ในครั้งนี้ เพราะเลือกตั้งระดับชาติ กับเลือกตั้งท้องถิ่นไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็อย่าประมาท

อย่างไรก็ตาม กกต. สรุปการรับสมัคร อบจ.ทั่วประเทศ เป็นไปด้วยความราบรื่น และขอให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมทั้งสอดส่องให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม และ กกต. มีรางวัลนำจับในการแจ้งเบาะแสการทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งด้วย ตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง