อส.เมาคลั่งรัว 8 นัด ทำเด็กกำพร้าพ่อ-แม่ จ.สงขลา

View icon 90
วันที่ 24 ธ.ค. 2567
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - คดีสะเทือนขวัญ อส.เมาปืนดุ ไล่ยิงลูกค้า และเจ้าของร้านข้าวต้ม ทำให้พ่อ และแม่ที่พาลูกชายอายุ 12 ขวบ ไปฉลองวันเกิดเสียชีวิต ลูกชายผู้เสียชีวิตโพสต์ข้อความจุกอก เพราะวันที่ควรจะมีความสุข ไม่น่ามาเกิดเหตุแบบนี้

อส.เมาคลั่งรัว 8 นัด ทำเด็กกำพร้าพ่อ-แม่ จ.สงขลา
จากเหตุอุกอาจ นายอัครพณธ์ อายุ 50 ปี อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอหาดใหญ่ เมาชักปืนไล่ยิงลูกค้า และเจ้าของร้านข้าวต้ม ริมถนนนวลแก้วอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 8 นัด

พนักงาน ลูกค้าโต๊ะอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น นายอัครพณธ์ ยังได้ย้อนกลับไปยิง นางสาวภาวนา อายุ 46 ปี เจ้าของร้านข้าวต้ม ซ้ำ ก่อนจะวิ่งออกจากร้าน พยายามไปไล่ยิงคนอื่นอีก

เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ นายสิทธิพงศ์ อายุ 48 ปี และนางอรชร อายุ 47 ปี เสียชีวิต ถูกกระสุนปืนยิงหัวทั้ง 2 คน เหตุยังเกิดต่อหน้าลูกสาวอายุ 6 ขวบ และลูกชายอายุ 12 ขวบ ทั้งที่ 2 คน ตั้งใจพาไปฉลองวันเกิดให้กับลูกชาย 

จุกอก ! พ่อโพสต์อวยพรลูก ก่อนถูกยิง จ.สงขลา
นี่ก็เป็นภาพโพสต์สุดท้ายของ นายสิทธิพงศ์ หรือ ช่างสิทธิ์ โพสต์ภาพลูกชายและลูกสาว เขียนข้อความว่า "เบิร์ดเดย์โกแชมป์ ตั้งใจเรียนนะคับ โตมาจะได้เป็นเจ้าคนนายคน" แต่เพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็เกิดเหตุสลด

ด้านลูกชายของผู้เสียชีวิต ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก รูปพ่อแม่อุ้มตัวเอง พร้อมข้อความจุกอก บอกว่า "ไปไม่ลาเลยนะพ่อแม่ ไปสบายแล้วนะ จากไปไม่มีวันกลับมา" โพสต์นี้สร้างความสะเทือนใจ และหดหู่ให้กับผู้ที่พบเห็น พากันไปให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย เพราะวันที่เด็กน่าจะมีความสุข กลับต้องมาเจอเรื่องราวเลวร้าย

ลูกชายช็อกฉลองวันเกิด เห็นพ่อ-แม่ถูกยิง จ.สงขลา
เด็กชายอายุ 12 ขวบ ลูกของผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันเกิดเหตุพ่อได้พาตนเองไปฉลองวันเกิดที่ร้านข้าวต้ม ซึ่งเป็นร้านประจำ ระหว่างกินข้าว ผู้ก่อเหตุทะเลาะกับพนักงานร้าน ทำท่าเหมือนจะชักปืนออกมาขู่

เจ้าของร้านได้มีการตักเตือนเรื่องการพกปืนเข้าร้าน แต่ผู้ก่อเหตุปฏิเสธว่า "ไม่มีปืน" พนักงานยืนยันว่า "มีปืน"

แม่ของตนเอง บอกว่า "ฉันเห็นปืน ฉันเป็นพยานให้ได้" ผู้ก่อเหตุไม่พอใจตอบกลับมาว่า "ไม่ต้องมายุ่ง กินข้าวกับครอบครัวคุณไปเลย พี่สาวคนนี้ปากดีจัง"

ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุยกมือไหว้ ทำท่าจะเดินออกจากร้าน แต่ไม่รู้ว่าว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ก่อเหตุชักปืนออกมายิง และปรี่เข้ามาหาแม่ พูดว่ามึงปากดีนักใช่ไหม พร้อมยิงแม่จนล้ม

แม่พยายามดึงตัวน้องสาวเข้ามากอด หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ไล่ยิงเจ้าของร้าน ยิงพ่อ ช่วงนั้นตนเองวิ่งหนีไปหลบใต้โต๊ะ และได้วิ่งหนีไปที่หลังร้าน จึงเอาชีวิตรอดมาได้ 

ลูกค้าเผยนาทีหนีตาย ไม่คิดว่าจะเจอคนคลั่ง จ.สงขลา
นายบุญสม หรือลุงแดง อายุ 62 ปี ลูกค้าที่ต้องวิ่งหนีตาย โชว์บาดแผลถลอกตามร่างกายหลายจุด เล่าว่า ตอนเกิดเหตุ ตนเองและเพื่อน 7 คน ไปนั่งกินข้าว ช่วงเวลานั้นทุกอย่างปกติ อยู่ ๆ ผู้ก่อเหตุมีปากเสียงกับพนักงาน ได้เดินมาที่โต๊ะของตนเอง พวกตนไม่ได้สนใจ เพราะไม่รู้จักกัน

กระทั่งได้ยินเสียงปืน ลุงแดงหมอบลงไปนอนกับพื้น จากนั้นก็ล้มลุกคลุกคลาน วิ่งหนีตาย จนหกล้มที่หน้าร้าน จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุก็เดินวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ

ลุงแดง บอกว่า รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่คาดว่ามานั่งกินที่ร้านข้าวต้ม จะเจอเหตุอุกอาจขนาดนี้ พร้อมเรียกให้ผู้บังคับบัญชารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น

อส.ปืนดุ ปฏิเสธทำแผนฯ กลัวถูกประชาทัณฑ์ จ.สงขลา
ส่วน นายอัครพณธ์ อายุ 50 ปี อส.ที่ก่อเหตุ ถูกตำรวจ สภ.หาดใหญ่ สอบสวนอย่างเข้มข้น เจ้าตัวปฏิเสธไม่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์

ชาวบ้านนับ 100 คน ที่ไปเฝ้ารอดูการทำแผนฯ ยังจุดเกิดเหตุ รู้สึกผิดหวัง ต่างพากันสาปแช่งผู้ก่อเหตุที่ทำรุนแรง เป็นเหตุทำให้เด็ก 2 คน ต้องมากำพร้าพ่อและแม่

แจ้ง 4 ข้อหา อส.คลั่ง ฉุนเด็กเสิร์ฟเก็บโต๊ะ จ.สงขลา
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้สอบสวนผู้ก่อเหตุ ยืนยันว่าสาเหตุมาจากผู้ก่อเหตุไม่พอใจเด็กเสิร์ฟที่มาเก็บโต๊ะ ทั้งที่ตนเองยังไม่ได้เช็กบิล แค่ออกไปคุยกับเพื่อน

ผู้ก่อเหตุยังอ้างว่า ไม่ได้ชักปืนมาขู่พนักงาน มีการท้าให้เจ้าของร้านเปิดภาพวงจรปิด ก็ไม่มีการชักปืน แต่ก็ยังถูกเจ้าของร้านตามมาต่อว่า จึงลงมือก่อเหตุ

ส่วนที่ยิงช่างสิทธิ์ และภรรยา เพราะโมโหจะมาเป็นพยาน บอกว่าเห็นตนเองชักปืน และมีการด่าทอ ตอนนั้นพ่อครัวก็จะโทร.แจ้งตำรวจ ทำให้เกิดอารมณ์โมโห

สำหรับผู้ต้องหา ถูกแจ้งข้อหา 4 ข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะ และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานว่า จะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพิ่มเติมด้วย

สั่งออกราชการ อส.ปืนดุ เมาขาดสติ จ.สงขลา
นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามคำสั่ง นายอัครพณธ์ ออกจากการเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม ให้ข้อมูลว่า สำหรับผู้ก่อเหตุเพิ่งบรรจุเป็น อส. ได้เพียง 1 ปี ถูกส่งไปช่วยราชการที่จังหวัดสงขลา เพิ่งย้ายกลับมาหาดใหญ่ ได้เพียง 5 เดือน

หลังเกิดเหตุสลด ได้กำชับนายอำเภอ ผู้บังคับบัญชา อส. มีทั้งจังหวัด 17 กองร้อย ให้กำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทั่วถึง แต่เหตุที่เกิดขึ้น ผู้ว่าฯ ระบุว่าเป็นการกระทำส่วนบุคคล ที่มีความมึนเมาแล้วใช้อาวุธก่อเหตุ ปืนก็ไม่มีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน

"อนุทิน" สั่งเอาผิด อส.ย้ำทำผิดรับโทษทวีคูณ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งดำเนินคดีผู้ก่อเหตุอย่างเต็มที่ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องมีสำนึกรับผิดชอบต่อหน้าที่ ดูแลประชาชน เมื่อเป็นคนของรัฐและกระทำผิด ต้องรับโทษทวีคูณ ส่วนเรื่องพกอาวุธปืน เป็น อส. พกได้ แต่ต้องในหน้าที่ นอกเหนือจากนั้นมีความผิดเพิ่มขึ้นอีกหลายกระทง

สุดเศร้า ! รดน้ำศพผัว-เมีย เหยื่อ อส.ปืนดุ จ.พัทลุง
และเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (23 ธ.ค.) ญาติ ๆ ได้นำศพ นายสิทธิพงศ์ (ช่างสิทธิ์) และภรรยา กลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลคู่กันที่วัดป่าบอนตำ อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง บ้านเกิดของนางสาวอรชร ญาติ ๆ ได้มาร่วมรดน้ำศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด โดยเฉพาะลูกชายอายุ 12 ขวบ ของผู้เสียชีวิต ร้องไห้ตลอดเวลาที่ได้เห็นร่างไร้วิญญาณของพ่อและแม่

ครอบครัวเศร้า จี้ลงโทษประหาร อส.ปืนดุ จ.พัทลุง
นางสำเริง หนุยัง อายุ 78 ปี แม่ของนางสาวอรชร ประณามการกระทำของคนร้าย ที่มีพฤติกรรมโหดร้ายเกินมนุษย์ สิ่งที่แม่กังวลก็คือ ลูกของผู้เสียชีวิต ต้องมากำพร้าทั้งพ่อและแม่ หลานคนโตจะรอให้เรียนจบ ม.3 แล้วจะให้ย้ายกลับมาอยู่ที่จังหวัดพัทลุง ส่วนหลานสาวคนเล็ก แม่จะนำกลับมาเลี้ยงเอง สงสารหลานและลูกที่จากไปโดยไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะหลานคนเล็ก ยังไม่รู้ว่าแม่เสียชีวิต คิดว่าแม่แค่บาดเจ็บ ไปทำแผลที่โรงพยาบาล

เช่นเดียวกับ นายสมเกียติ เอียดดำ อายุ 71 ปี พ่อของนางสาวอรชร เผยทั้งน้ำตา ลูกสาวไม่ได้ขัดแย้งกับผู้ก่อเหตุ อยากให้ตำรวจใช้กฎหมายดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้พ่อเจ็บในใจจนพูดไม่ออก ที่ผู้ก่อเหตุฆ่าลูกสาวและลูกเขยเสียชีวิต ต่อหน้าหลาน 2 คน เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น

ปาฏิหาริย์ ! เจ้าของร้านข้าวต้ม พ้นขีดอันตราย จ.สงขลา
นายสุรยุทธิ ซึ่งเป็นลูกชาย บอกว่า แพทย์ได้ผ่าตัดเอากระสุนออกจากบริเวณหน้าท้องแล้ว เหลือแค่ผ่าตัดที่ขมับซ้ายช่วงหางคิ้ว เนื่องจากกะโหลกเบ้าตาแตก อาการน่าเป็นห่วง

เมื่อ 22.30 น.ที่ผ่านมา ลูกชายโพสต์อัปเดตเพิ่มเติมว่า "แม่ผมพ้นขีดอันตรายแล้วครับ ตอบสนองโดยการพยักหน้าได้ รับรู้ จำลูกได้ #แม่ผมเข็มแข็งมากคับ #ขออภัยที่ไม่ได้ตอบแชตในขอโพสในที่นี่ที่เดียว #แล้วขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตด้วยครับ #ส่วนตัวยังผวาคับ"