ตำรวจนนทบุรี สนธิกำลังบุกรวบ โจรเวียดนาม 2 คน ก่อเหตุงัดตู้เซฟ ได้คาม่านรูด พร้อมของกลางกว่า 500 รายการ
วันที่ 18 ธ.ค. 67 พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สมชาย ชูแก้ว ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนภาค 1 และกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัวนาย ĐỒ VĂN HIỆP อายุ 36 ปี และนาย NGUYỄN HỮU LỰC อายุ 34 ปี ชาวเวียดนาม พร้อมของกลางกว่า 500 รายการ โดยจะเป็นอุปกรณ์เครื่องมือช่าง โทรศัพท์มือถือ สิ่งของอิเล็กทรอนิกส์ พระเครื่อง รองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้ากางเกงต่าง ๆ และเงินสด โดยจับกุมตัวได้ที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ที่ ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน”
พล.ต.ต.ปรารถนา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 9 ธ.ค. 67 สภ.ชัยพฤกษ์ ได้รับแจ้งว่ามีคนร้าย 2 คนก่อเหตุงัดแงะหลายเคสติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งเขตบางบัวทอง บางกรวย บางศรีเมือง ชัยพฤกษ์ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนของพื้นที่ และชุดสืบสวนของจังหวัดนนทบุรี ทำประวัติสืบสวนในกล้องวงจรปิดกับทางตำรวจ ซึ่งผู้ต้องหาก่อเหตุที่สภ.ชัยพฤกษ์เป็นพื้นที่แรก หลังจากนั้นไล่ก่อเหตุไปเรื่อย ๆ ซึ่งจากการจับกุมตรวจพบกล้องวงจรปิดจุดที่ลงแท็กซี่ของเขตบางศรีเมือง จึงตามมาจับได้ที่โรงแรมดังกล่าว ตำรวจเฝ้าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน หลังจากนั้นได้เข้าตรวจสอบจึงพบของกลางอยู่ในห้องจำนวนมาก ซึ่งการก่อเหตุของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปก่อเหตุที่โชว์รูมรถ และถ้าผ่านจุดไหนจะเข้าไปขโมยทั้งหมด ตระเวนไปเรื่อย ๆ
ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเป็นชาวเวียดนาม เข้ามาประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย โดยเข้ามาท่องเที่ยว ตอนนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบว่ามีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งทางโรงแรมให้ที่พักพิงผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยไม่ใช้เอกสารตามกฎหมาย และจะโดนกฎหมายให้ที่พักพิงกับผู้ต้องหา ซึ่งทางตำรวจ จึงไม่สามารถจับกุมได้ตอนแรก ตอนนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมโดยใช้ล่าม เพราะผู้ต้องหา 1 คน พูดภาษาไทยไม่ได้ ส่วนอีก 1 คน สามารถพูดไทยได้เล็กน้อย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งข้อหาคือร่วมกันลักทรัพย์ ทำอันตราย และรับของโจร ส่วนด้าน นายนึก อายุ 34 ปี ชาวเวียดนาม ผู้ต้องหา อ้างว่าตนไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ เพื่อนตนเป็นคนออกไปก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยเข้ามาเมืองไทยตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 67 โดยตนตกงาน และไม่มีงานทำ
