พระซิ่งเก๋งชนรถ จยย. เด็กหญิงวัย 14 กับ 15 ปี เจ็บสาหัส เผ่นหนีออกจากวัดไม่รับผิดชอบ

View icon 116
วันที่ 18 ธ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (18 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีแม่วัย 38 ปี ชาว จ.หนองคาย มีความกังวลเกี่ยวกับคดีอุบัติเหตุ เนื่องจากลูกสาววัย 14 ปี และหลานสาววัย 15 ปี ขี่รถจักรยานยนต์จะไปทำธุระในตัว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ถูกรถเก๋งเสียหลักหักหลบตัดหน้า ทำให้รถจักรยานยนต์ชนเข้ากลางรถเก๋ง กระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง ขาหัก บาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 คน เบื้องต้นคนขับรถเก๋งเป็นพระสงฆ์ สังกัดวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมืองอุดรธานี เหตุเกิดบริเวณถนนสายบ้านดุง-คำตากล้า บ้านหัวฝาย ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เวลา 14.30 น. วันที่ 10 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยล่าสุดพบว่าพระรูปดังกล่าวหอบข้าวของหนีออกจากวัดไปแล้วตั้งวันที่ 12 ธ.ค. 67 แม่ของผู้บาดเจ็บจึงวอนพระสงฆ์ติดต่อมารับผิดชอบทั้งทางคดีและค่ารักษา

นางวรรณนิสา เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุลูกสาวกับหลานสาวขี่รถจักรยานยนต์ไปไปกดเงินเบี้ยผู้สูงอายุให้คุณยายจำนวน 700 บาท ที่ตู้เอทีเอ็ม บ้านสันติสุข อ.บ้านดุง แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว โดยลูกสาวตนเป็นคนขับขี่ ตอนนี้ลูกสาวยังต้องรอการผ่าตัดอยู่ที่ รพ.หนองคาย ส่วนหลานสาวนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านแล้ว ซึ่งหลังเกิดเหตุพระรูปดังกล่าวยังไม่ติดต่อมารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดโพธิ์ชัย ต.นาดี อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นวัดที่ระบุว่าพระรูปดังกล่าวจำพรรษาและสังกัดอยู่ที่วัดแห่งนี้ เบื้องต้นเจ้าอาวาสติดกิจนิมนต์นอกวัด มีเพียงแค่สามเณรอยู่ภายในวัดไม่กี่รูป ซึ่งให้ข้อมูลตรงกันว่า พระรูปดังกล่าวเคยบวชและจำพรรษาที่วัดนี้จริง บวชมาได้ประมาณ 5 พรรษา พรรษาแรกแรกก็บวชที่วัดนี้ ส่วนพรรษาที่ 2, 3 และ 4 ไปจำพรรษาที่วัดอื่น กระทั่งพรรษาที่ 5 ก็กลับมาที่วัดนี้ ทางเจ้าอาวาสเคยว่ากล่าวตักเตือนหลายครั้ง เรื่องการออกไปนอกวัด เรื่องการขับรถยนต์ แต่ก็ยังประพฤติตนไม่เหมาะสมเรื่อยมา

อย่างไรก็ตาม สามเณรรูปหนึ่ง บอกว่า พระรูปดังกล่าวไม่ค่อยอยู่วัด ทราบข่าวว่าพระขับรถชนคนก็จากข่าวที่ออกมา โดยพระรูปดังกล่าวกลับมาที่วัดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 67 และออกจากวัดไปช่วงสายของวันที่ 12 ธ.ค. 67 หลังจากนั้นก็ไม่เห็นกลับมาวัดอีกเลย ส่วนรถเก๋งคันที่เกิดเหตุ ก็เคยเห็นพระรูปนี้ขับมาจอดอยู่ที่วัดบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่รู้ว่าเอาไปจอดหรือเอาไปซ่อมที่ไหน ส่วนพระรูปที่ก่อเหตุก็ไม่รู้ว่าไปไหนเช่นกัน รู้เพียงว่าเป็นชาวบ้าน บ้านจำปา ต.เชียงยืน อ.เมืองอุดรธานี