น้ำท่วมวิกฤตหนัก เร่งอพยพชาวบ้าน

View icon 99
วันที่ 16 ธ.ค. 2567
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ไปตรวจสอบพื้นที่อื่น ๆ กันบ้าง ต้องบอกว่าวิกฤตไม่แพ้ที่นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะที่สุราษฎร์ธานี อีกหนึ่งจุดรับน้ำจากเทือกเขาหลวง ก่อนไหลลงทะเล ทำให้น้ำท่วมหนัก และมีดินไหลทับพ่อ-ลูก

น้ำท่วมวิกฤตหนัก เร่งอพยพชาวบ้าน
ภาพที่คุณผู้ชมเห็นอยู่หน้าจอทีวีขณะนี้ ผู้สื่อข่าวบันทึกไว้เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา จะเห็นว่าพื้นที่ตำบลกรูด อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งบริเวณนี้เป็นจุดรับน้ำมาจากเทือกเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนที่จะไหลลงทะเลผ่านคลองสวาสดิ์

โดยมวลน้ำไหลเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร และยังไหลเชี่ยว ชาวบ้านบอกว่า ความรุนแรงหนักกว่าน้ำท่วมเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทหารต้องนำเรือท้องแบนและรถยกสูงเข้าไปอพยพชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงออกไปอยู่ที่ปลอดภัย เพราะตอนนี้ระดับน้ำยังสูงขึ้นเรื่อย ๆ บางจุดเกือบถึงชั้น 2 ของบ้านแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีดินไหลที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภายในซอยตลาดกล้วย ตำบลวัดประดู่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา และดินปริมาณมากไปทับร่างพ่อ-ลูก ที่กำลังนอนอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ช่วยพ่อออกมาได้ ส่วนลูกชายอายุ 16 ปี ติดอยู่ใต้กองดิน กว่าจะช่วยออกมาได้พบว่าเสียชีวิตแล้ว ชาวบ้านให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เดิมทีพื้นที่ด้านบนเป็นสวนยางพารา หลังจากนั้นได้มีการก่อสร้างโครงการหมู่บ้านจัดสรร และเกิดดินไหลมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้หนักที่สุด

ช่วยวัว 20 ตัว น้ำซัดตกแม่น้ำหลังสวน
ส่วนที่จังหวัดชุมพร แม้ว่าระดับน้ำเริ่มลดลง แต่ที่น่าสงสารเห็นจะเป็นวัวฝูงนี้ ซึ่งมีทั้งหมด 20 ตัว ถูกกระแสน้ำพัดออกจากคอกเลี้ยง ลงไปแม่น้ำหลังสวน บริเวณตำบลขันเงิน อำเภอหลังสวน และต้องว่ายน้ำไปตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว

โดยมีเศษสวะอีกจำนวนมากลอยอยู่ข้าง ๆ จนอยู่ในอาการที่อ่อนแรง เนื่องจากถูกกระแสน้ำพัดไปไกล ท่ามกลางเสียงร้องของเด็กคนหนึ่งที่ให้พ่อของตัวเองเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งทุกคนก็ร่วมแรงร่วมใจ เอาเรือพายไปช่วยเหลือกลับมาได้รวม 18 ตัว เราไปชมภาพเหตุการณ์นี้กัน

ตอนนี้ยังหาวัวไม่เจออีก 2 ตัว ซึ่งคาดว่าน่าจะไหลไปตามกระแสน้ำ และยังไม่รู้ว่าไปติดอยู่ที่จุดไหน หรือจมน้ำไปแล้ว

นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า อิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ยังพัดแรงอยู่ในระยะนี้ แต่ที่จังหวัดชุมพร และสุราษฎร์ธานี ฝนจะเริ่มลดลง วันนี้ (16 ธ.ค.) ให้จับตาฝนตกหนักถึงหนักมากที่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

พรุ่งนี้ภาคใต้ สถานการณ์ฝนจะดีขึ้น
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) มวลอากาศเย็น จะไล่ฝนไปตกที่ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ส่งผลให้ลำน้ำต่าง ๆ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น

แต่โดยสรุปช่วงวันที่ 17-18 ธันวาคม ภาคใต้สถานการณ์จะดีขึ้น ฝนลดลงในหลายพื้นที่เพราะมรสุมที่พัดปกคลุมจะมีกำลังอ่อนลงไป ส่วนทางภาคเหนือและภาคอีสาน ยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง เป็นไปตามฤดูกาล

สอดคล้องกับข้อมูลจาก อาจารย์เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกว่า ตั้งแต่วันนี้ (16 ธ.ค.) เป็นต้นไป ฝนจะเริ่มเบาลง พรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) ก็จะกลับมาเป็นปกติ แต่เนื่องจากฝนที่ตกสะสมมาก่อนหน้านี้หลายวัน มีปริมาณมาก จึงส่งผลให้น้ำหลากไปอีก 2-3 วัน อย่างพื้นที่ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช อาจจะใช้เวลาในการระบายน้ำนานเกือบ 1 สัปดาห์ โดยตั้งแต่วันที่ 17-18 ธันวาคม สถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนคาดการณ์วันข้างหน้ายังไม่มีพายุเกิดขึ้น แต่ยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ

รัฐบาลเร่งช่วยน้ำท่วมใต้-ภัยธรรมชาติแก้ยาก
นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. บอก ได้มีการเตรียมการไว้หมดแล้ว ทั้งเรื่องมอบนโยบายกับผู้ว่าราชการจังหวัด และได้สั่งทหารช่างลงพื้นที่พร้อมยุทโธปกรณ์ และกำลังทั้งหมดที่ส่งไปยังอยู่ช่วยเหลือประชาชน ยอมรับ น้ำมาแรงเพราะธรรมชาติเปลี่ยนแปลง ซึ่งแก้ปัญหาได้ยาก

ไทย-มาเลเซีย แก้ปัญหาน้ำท่วมร่วมกัน
ขณะที่นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กำลังปฏิบัติภารกิจที่ประเทศมาเลเซีย เป็นร่วมการประชุมประจำปี ระหว่าง ไทยกับมาเลเซีย ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 ที่จะประสานความร่วมมือ 4 ด้าน โดยเฉพาะการกำหนดมาตรการป้องกันอุทกภัยระยะยาวระหว่างกัน ที่ประเทศไทยให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ทำงานร่วมกับฝ่ายมาเลเซีย

มท.1 ลงพื้นที่น้ำท่วม 17 ธ.ค.
อย่างไรก็ตาม หลังจากเดิมทางกลับประเทศไทย นายอนุทิน จะนำผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎรธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมรับฟังปัญหา อุปสรรคในพื้นที่เพื่อพิจารณาให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ