ดูคลิป ONE ลุมพินี วันที่ 18 ตุลาคม 2567 คู่ พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ vs ซิลวิอู วิเตซ
ล่าสุด “พันธ์พยัคฆ์” เจ้าของรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยม ของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย 3 ปี ซ้อน (พ.ศ.2556-2558) หวนคืนสังเวียนในรอบ 2 ปี โดยสามารถโชว์เก๋าเอาชนะคะแนน “ซิลวิอู วิเตซ” จากโรมาเนีย ในศึก ONE ลุมพินี 83 เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังจบไฟต์ดังกล่าวเจ้าตัวยอมรับว่า ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องปรับแก้ไข เพื่อทำผลงานให้ดีกว่าเดิมในไฟต์ต่อไปที่จะต้องเจอกับ “เอกอร์”
“ชัยชนะเหนือ ซิลวิอู ถือว่ามีความสำคัญมาก อย่างน้อยก็ช่วยเรียกความมั่นใจของตัวเอง กู้ศรัทธาจากแฟนมวยที่รอติดตามเรากลับมาได้ ถ้าเต็ม 10 ผมคงให้คะแนนตัวเองอยู่ที่สัก 7-8 ประมาณนี้ครับ”
“ผมยังมีปัญหาเรื่องของพละกำลัง หลังจากห่างหายการขึ้นชกไปนาน เมื่อโดนชกแล้วเลยออกอาการยุบ มีหมดแรงให้เห็น ผมจึงต้องกลับมาแก้ไขตรงจุดนี้ให้ดีขึ้น ส่วนกระแสตอบรับจากแฟนมวยถือว่าดีเลยครับ มีหลายคนรอติดตามและรอให้กำลังใจอยู่”
ไฟต์ต่อไป “พันธ์พยัคฆ์” ทุ่มแรงกายแรงใจซ้อมอย่างเต็มที่เพื่อรับมือ “เอกอร์” นักสู้รุ่นน้องที่เปิดตัวสวยชนะทีเคโอยกแรก “กิ่งซางเล็ก ว.คำชำนาญ” พร้อมกับรับโบนัส 3.5 แสนบาท กลับบ้านได้ทันที ในศึก ONE ลุมพินี 86 เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวยังหวังใช้ความเป็นมวยที่เหนือกว่าช่วยเก็บชัยในไฟต์นี้ให้ได้
“การฟิตซ้อมในไฟต์นี้ถือว่าดีกว่าไฟต์ล่าสุดมาก เพราะเหมือนว่าร่างกายผมเริ่มคุ้นเคยกับการฝึกการซ้อมแล้ว ผมคิดว่าใกล้จะถึงจุดที่ฟิตเต็มที่เหมือนเมื่อก่อนแล้วด้วย ขอเวลาขึ้นชกอีกสัก 1 หรือ 2 ไฟต์ น่าจะดีมากขึ้น เพราะเริ่มควบคุมระบบหายใจ และการซ้อมได้ดีแล้วครับ”
“การเก็บตัวที่ค่ายมวยภูเก็ตไฟต์คลับ ช่วยให้ผมพัฒนาฝีมือขึ้นมาก ได้ซ้อมกับนักสู้ต่างชาติโดยตรง ซึ่งไฟต์นี้มี เคียมรัน (นาบาติ) มาช่วยด้วย ทำให้ผมได้เรียนรู้เรื่องทักษะหมัดและระบบการซ้อมที่เป็นระบบ และยังมีวิทยาศาสตร์การกีฬาที่เข้ามาช่วยได้เยอะมาก ส่วนทางทีมงานโค้ชได้เน้นติวเรื่องความไว การออกอาวุธ การป้องกันตัว รวมถึงจังหวะเข้าทำปิดเกมเพิ่มเติมมาให้ครับ”
“จุดแข็งที่สุดของ เอกอร์ คือสปีดหมัด เพราะนักมวยจากรัสเซียเขาเน้นเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนจุดอ่อนผมยังเห็นไม่ค่อยชัด เพราะไฟต์ล่าสุดเขาชนะคู่ชกไวมาก ต้องไปวัดกันบนเวทีว่าเราจะทำอะไรเขาได้บ้าง คาดว่าต้องศึกษาแก้เกมแบบวินาทีต่อวินาทีกันเลย แต่ถ้าวัดกันในเรื่องทักษะมวย ผมมองว่าตัวเองมีประสบการณ์เหนือกว่าครับ”
ในไฟต์นี้ นอกจากชัยชนะที่ต้องการแล้ว “พันธ์พยัคฆ์” ยังหวังใช้เป็นเวทีโชว์ฝีมือว่า ตนคู่ควรกับการได้หวนคืนเวทีระดับโลก ONE ที่เขาเคยได้เป็นหนึ่งในตัวท็อปของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต
“การกลับมาครั้งที่ 2 ในรอบนี้ ผมต้องออกไปพิสูจน์ตัวเอง แสดงให้เห็นถึงทักษะ ศิลปะการออกอาวุธที่สวยงามให้ทุกคนเห็น โดยส่วนตัว ผมมองเป้าหมายต่อไปไว้ที่ ONE (ใหญ่) อยู่แล้ว ตอนนี้ ผมมองว่าการเปลี่ยนแปลงอันดับแรงกิง มวยไทย รุ่นฟลายเวต ใน ONE ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งตอนนี้ มีนักชกจาก ONE ลุมพินี เข้ามาเพิ่มเติมด้วย”
“สำหรับผม การกลับไปอยู่ในจุดนั้นอีกครั้งไม่ได้ยากกว่าเดิม แต่ถือเป็นการทดสอบตัวเอง เพราะใน ONE เต็มไปด้วยนักมวยเก่ง ๆ จากทั่วโลกอยู่แล้ว ผมเห็นกระแสในโลกโซเชียลที่อยากให้ผมเจอกับนักชกที่อยู่ในแรงกิงตลอด แต่ว่าผมจะพาตัวเองไปถึงตรงจุดนั้นได้อีกครั้งไหม ทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่ตัวผม”
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com อินสตาแกรม ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH
ติดตาม ONE Championship และ ONE ลุมพินี ได้ที่ : https://www.ch7.com/one-championship
ช่องทางถ่ายทอดสด ONE ลุมพินี
- FACEBOOK : https://www.facebook.com/Ch7HD [เริ่มเวลา 19.30 น.]
- YOUTUBE : https://www.youtube.com/ch7hd [เริ่มเวลา 19.30 น.]
- ช่อง 7HD กด 35 / เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน BUGABOO.TV [เริ่มเวลา 20.30 น.]