เจ้าของร้านกัญชา แล้วรีดทรัพย์เกือบ 5 แสนบาท ที่แท้ฝีมือลูกน้องแสบวางแผนปล้น

View icon 229
วันที่ 13 ธ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
4 คนร้าย อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ถืออาวุธบุกปล้น ใช้ถุงคลุมหัวหนุ่มเจ้าของร้านกัญชา แล้วรีดทรัพย์เกือบ 5 แสนบาท ที่แท้ฝีมือลูกน้องแสบวางแผนปล้น ล่าสุด รวบตัวได้แล้ว 2 คน เร่งไล่ล่าอีก 3 คน 

13 ธันวาคม 2567 ความคืบหน้ากรณีที่ 4 คนร้าย เป็นชายสวมชุดดำ สวมหมวก อ้างเป็นฝ่ายปกครอง ถืออาวุธบุกปล้น นายไทด์ อายุ 26 ปีชาวเชียงใหม่ เจ้าของร้านกัญชากลางเมืองเชียงใหม่ ปล้นทรัพย์เกือบ 5 แสน โดยกลุ่มคนร้ายได้บุกเข้ามาที่ร้าน ล็อกตัวเจ้าของร้าน และลูกน้องที่เป็นผู้ชายชื่อนายหรั่ง แล้วใช้เชือกมัดมือมัดเท้าและเอาถุงคลุมศรีษะ ก่อนบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปกครอง มาตรวจความผิด หลังจากนั้นได้บังคับเอารหัสโทรศัพท์ต่างๆ แล้วโอนเงินออกไปกว่า 3 แสนบาท ซึ่งคนร้ายยังบังคับให้เจ้าตัวสแกนลายนิ้วมือ เพื่อเปิดโทรศัพท์ และยังบังคับให้สแกนใบหน้า เพื่อโอนเงินผ่านแอปฯธนาคาร และกวาดเอาทรัพย์สินอื่นๆภายในร้าน รวมถึงรถจักรยานยนต์ อีก 4 คันขับออกจากร้านไป

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก โดยพ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหาย ได้สั่งการให้ติดตามสืบสวนเอาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี หนึ่งในนั้นมีการนำตัวนายหรั่ง ลูกน้องมาสอบปากคำ ในฐานะผู้เสียหาย และพยานในเบื้องต้น พร้อมกับออกติดตามหาเบาะแสของคนร้าย โดยเฉพาะเส้นทางของการโอนเงินไปยังปลายทาง จนล่าสุด สามารถนำตัวคนร้ายมาได้แล้ว 2 คน หนึ่งในนั้นคือนายหรั่งลูกน้องของเจ้าของร้านนั่นเอง

โดยเมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้มาประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีพร้อมกับเปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า คดีนี้ต้องชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ที่เร่งทำงานอย่างรวดเร็ว ก่อนที่กลุ่มคนร้ายเหล่านี้ จะหลบหนีออกนอกพื้นที่ โดยพบว่าผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดมีด้วยกัน 5 คน ที่แท้จริงแล้ว คนที่วางแผน และเป็นตัวการหลักคือนายหรั่ง ที่เป็นลูกน้องของผู้เสียหายเองที่รู้เรื่องทุกอย่างภายในร้าน ทั้งเรื่องของทรัพย์สิน และจำนวนเงินของผู้เสียหาย รวมทั้งเส้นทางเข้าออก

แต่เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเงิน จึงต้องการหาเงินไปใช้ ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหาอีก 4 คน ที่เคยเป็นลูกค้าร้านกัญชาและมารู้จักกับนายหรั่ง จึงได้ชักชวนกันวางแผนร่วมก่อเหตุ ทำทีมาว่าปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้ามาขอตรวจค้น และจับตัวผู้เสียหาย และนายหรั่ง มัดมือมัดเท้า ก่อนบังคับให้สแกนลายนิ้วมือ เปิดเครื่องโทรศัพท์ เอารหัสของแอปฯธนาคาร และสแกนใบหน้า เพื่อโอนเงินออกจากบัญชีไปยังบัญชีธนาคารปลายทางหลายแห่ง รวมเงินประมาณ 2 แสน 5 หมื่นบาท นอกจากนี้แล้วยังเอาทรัพย์สินมีค่ารวมทั้งรถจักรยานยนต์อีก 4 คันของผู้เสียหายไปด้วย

หลังจากสอบปากคำนายหรั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบพิรุธหลายอย่าง จนเจ้าตัวรับสารภาพ รวมทั้งการติดตามแกะรอยจากเส้นทางการโอนเงินไปบัญชีต่างๆ จนทราบตัวคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุทั้ง 4 คน พร้อมทั้งของศาลออกหมายจับ ทั้ง 5 คนที่ร่วมก่อเหตุในข้อหาปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธในการก่อเหตุ และคืนที่ผ่านมาสามารถติดตามหนึ่งใน 4 ของคนที่เข้าปล้นได้แล้ว ตอนนี้ได้เงินคืนมาจำนวนหนึ่ง และกำลังเร่งแกะรอยติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 3 คนที่เลือมาดำเนินคดี ตอนนี้ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งทำงานก่อนส่วนความคืบหน้าของคดีก็จะมีการเปิดเผยต่อไป