เตรียมรับมือน้ำท่วมรอบ 2 จ.ปัตตานี

View icon 93
วันที่ 12 ธ.ค. 2567
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - สถานการณ์น้ำภาคใต้ แม้ตอนนี้หลายพื้นที่น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย แต่ยังวางใจไม่ได้ หลังจากทาง กรมอุตุฯ ประกาศเตือนระวังเรื่องฝนตกหนักระหว่างวันที่ 12-16 ธันวาคมนี้ และอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่ติดริมแม่น้ำ ทำให้หน่วยงานต่างเตรียมรับมือ

เตรียมรับมือน้ำท่วมรอบ 2 จ.ปัตตานี
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการเตรียมรถติดตามสถานการณ์น้ำเคลื่อนที่ จำนวน 1 คัน เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของจังหวัดปัตตานี และพื้นที่ใกล้เคียง

รถคันดังกล่าวสามารถวัดปริมาณน้ำฝนว่ามีปริมาณน้ำฝนกี่ลูกบาศก์เมตร และยังสามารถวัดระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ว่ามีระดับน้ำเท่าไร เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ว่าน้ำในแม่น้ำจะสามารถรับได้หรือไม่ ไว้เป็นข้อมูลแจ้งเตือนประชาชนได้ทราบต่อไป

สำหรับจังหวัดปัตตานี ต้องระวังน้ำท่วมฉับพลัน คือ พื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี จำนวน 8 อำเภอ (พื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานี ประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอยะรัง อำเภอแม่ลาน และ อำเภอหนองจิก ส่วนพื้นที่ติดแม่น้ำสายบุรี ได้แก่ อำเภอสายบุรี อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอกะพ้อ และ อำเภอไม้แก่น

ชาวบ้านริมแม่น้ำสายบุรีหวั่นน้ำท่วมซ้ำ จ.ยะลา
ส่วนชาวบ้าน อาศัยอยู่ริมแม่น้ำสายบุรี ในตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำน้ำหนักช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ต่างเตรียมรับมือน้ำท่วม และยังคงเก็บสิ่งของสำคัญไว้ที่สูงก่อน เพราะยังไม่วางใจกับปริมาณน้ำที่จะมาใหม่ระลอกใหม่นี้ จึงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

ทางด้าน นายสาการียา วาแมยูซา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลอาซ่อง บอกว่า การรับมือน้ำรอบ 2 นี้ ฝ่ายเราได้เตรียมแผนอพยพชาวบ้านไว้แล้ว หากเกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นมาจริง ๆ โดยใช้บ้านผู้ใหญ่บ้านเป็นศูนย์อพยพช่วยเหลือชาวบ้าน

ตามที่ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้มีประกาศเตือนมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนหนักมากบางแห่ง ในช่วงวันที่ 12-16 ธันวาคม นี้ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว ที่สำคัญขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างใกล้ชิด