พฐ.ไม่ตอบสื่อฯ หลังพบ รร.หรู ล้างห้องปาร์ตีชายรักชาย

View icon 51
วันที่ 11 ธ.ค. 2567
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - คดีปาร์ตีชายรักชาย ส่อเค้าผิดปกติ หลังโรงแรมที่เกิดเหตุล้างห้องพัก - ลบภาพวงจรปิด ด้านตำรวจ พฐ. เพิ่งเข้าเก็บหลักฐานเป็นครั้งแรก หลังคดีผ่านมา 2 วัน เพราะไม่ได้รับการประสานงานจากพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เจ้าของคดี

ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง เข้าเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม ที่ห้องพักปาร์ตีกางเกงในของกลุ่มชายรักชาย 124 คน รวมตัวมั่วสุมเสพยาเสพติด ภายในโรงแรมหรู ซอยสุขุมวิท 31 ก่อนถูกตำรวจจับกุม เวลา 01.30 น.เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักงานกลาง ใช้เวลาตรวจสอบนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยระหว่างเดินทางกลับ ทีมข่าวเข้าไปสอบถามว่าพบหลักฐานอะไรหรือไม่ แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดตอบคำถาม จนทีมข่าวไปทราบข้อมูล มาว่า หลังเกิดเรื่องทางโรงแรมลบภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณทางเดินหน้าห้อง และทำความสะอาดห้องพักที่เกิดเหตุไปแล้ว 2 ครั้ง เพื่อรองรับลูกค้าชุดใหม่ที่เข้ามาใช้บริการ

พอได้ข้อมูลมาแบบนี้จึงโทรศัพท์สอบถาม พลตำรวจตรี วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง ว่าก่อนหน้านี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเคยเข้าไปเก็บหลักฐานหลังเกิดเหตุมาแล้วใช่หรือไม่ แต่ได้รับคำตอบว่า เป็นการเก็บหลักฐานครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เจ้าของคดี ให้เข้ามาเก็บหลักฐาน หากห้องพักถูกทำความสะอาดไปแล้วก็ยากที่จะเหลือหลักฐาน เช่น ลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ

แต่ พลตำรวจตรี วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวปฏิเสธว่ากรณีการลบภาพวงจรปิดทำลายหลักฐานในห้องพักที่เกิดเหตุไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันตำรวจเก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้หมดแล้ว

แต่ขณะเดียวกัน พลตำรวจตรี วิทวัฒน์ ยังรู้สึกติดใจบางประเด็น เพราะจากข้อมูลของตำรวจทราบว่า ปาร์ตีกลุ่มนี้เป็นการรวมตัวกลุ่มชายรักชาย 3 กลุ่ม โดยตัวแทนกลุ่มจะหมุนเวียนเป็นเจ้าภาพดูแลค่าใช้จ่าย และไม่เรียกเก็บเงิน แต่จะคัดเลือกผู้เข้าร่วมงาน ร่วมวงปาร์ตีเสพยา ปลุกใจ เร้าอารมณ์ร่วม จึงต้องขยายผลหาที่มายาเสพติด

ส่วนผู้ต้องหา มีนามสกุลพ้องกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นำยาเข้าไปจำหน่ายในงาน ทำหลายคนคิดว่าอาจมีเจ้าหน้าที่บางท่านรู้เห็นเป็นใจ แต่จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ต้องหาคนนี้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตำรวจนายดังกล่าว

ทั้งนี้ฝากไปยังตำรวจท้องที่อื่นว่างานปาร์ตีเสพยา มีการเปลี่ยนรูปแบบจากการรวมตัวในสถานบันเทิง เปลี่ยนเป็นการเช่าห้องพักโรงแรม หรือ คอนโดฯ หรู หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ตำรวจจึงต้องพยายามเข้าตรวจสอบบ่อยครั้ง ป้องปรามไม่ให้มีงานลักษณะนี้ เกิดซ้ำในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง