แจ้งข้อหาเพิ่ม 7 ตร.ทำร้ายผิดตัว

View icon 62
วันที่ 9 ธ.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คนขับรถมาสด้าสีแดง ที่ขับรถแหกด่านตัวจริง ซึ่งเป็นต้นเหตุคดีตำรวจ 7 นาย ทำร้ายผิดคน เตรียมเข้าพบเจ้าหน้าที่เย็นนี้ ส่วนผู้ก่อเหตุทั้ง 7 คน อาจโดนแจ้งข้อหาเพิ่ม

แจ้งข้อหาเพิ่ม 7 ตร.ทำร้ายผิดตัว
วันนี้ที่ สน.บางเขน พันตำรวจเอก ธิติพงค์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และพันตำรวจเอก อนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการ สน.บางเขน ร่วมประชุมคดีตำรวจ กองบังคับการตำรวจจราจร 7 นาย รุมทำร้ายร่างกายประชาชนผิดตัว จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว

พันตำรวจเอก ธิติพงค์ เปิดเผยภายหลังประชุมว่า ผู้ต้องหาทั้ง 7 นาย ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้น  2 ข้อหา คือ ความผิดตามมาตรา 157 และร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีเจตนาทำร้าย แต่เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ ถือเป็นสิทธิที่ผู้ต้องหาให้การได้
แต่จากการประชุม ได้ข้อสรุปว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหา อาจเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ตามมาตรา 6 ซึ่งจะทำหนังสือไปถึงอัยการเพื่อร่วมกันสอบสวน หากพบว่าทำผิดจริง จะแจ้งข้อหาเพิ่ม เบื้องต้นมีกรอบระยะเวลาทำสำนวน 30 วันก่อนส่งให้ทาง ป.ป.ช. พิจารณาว่าจะรับทำคดีเอง หรือส่งกลับมาให้ตำรวจดำเนินการ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ได้มีการส่งเอกสารไปให้กองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อขอภาพกล้องติดหน้าอก 3 ตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ส่งกลับมาให้ สน.บางเขน ยืนยันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ แม้จะยังไม่ได้ภาพกล้องติดหน้าอกก็ตาม

จ่อหมายเรียกคนขับรถต้นเหตุ
ส่วนกรณี นายธนายุทธ สงวนนามสกุล อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับรถมาสด้าสีแดง แหกด่านหลบหนีตัวจริงนั้น ตำรวจพิจารณาแล้วว่า ผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์ดื่มสุราในขณะขับรถ ตรวจสอบพบว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกาย เจ้าหน้าที่สั่งให้ผู้ก่อเหตุขับรถจอดชิดซ้าย เพื่อทำการตรวจละเอียด แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอม และขับรถหลบหนีพร้อมชนด่าน

เข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา คือ เมาสุราในขณะขับรถ, ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และ ทำให้เสียทรัพย์ เบื้องต้นเจ้าตัวมีการประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ (9 ธ.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. คาดการณ์ว่าเจ้าตัวน่าจะรับสารภาพ แต่หากไม่มาภายในวันนี้ ตำรวจจะออกหมายเรียกตามขั้นตอนกฎหมาย

เรื่องการเยียวยาผู้ที่รับบาดเจ็บนั้น เบื้องต้นจะมีค่ารักษาพยาบาลให้ และแจ้งสิทธิได้รับการเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บ อีกทั้งจะมีการเรียกผู้บาดเจ็บมาสอบปากคำเพิ่มเติมในครั้งที่ 3 เนื่องจากกว่า 2 ครั้งแรก เป็นการสอบปากคำที่โรงพยาบาล และตัวผู้บาดเจ็บเองยังไม่สะดวกให้ข้อมูลมากนัก