รพ.หนองจิก อ่วม! เสียหายกว่า 40 ล้าน หลังเจอน้ำท่วมหนัก

View icon 321
วันที่ 7 ธ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
โรงพยาบาลหนองจิก อ่วม! ค่าเสียหายกว่า 40 ล้าน บุคลากรเร่งทำความสะอาด หลังน้ำท่วมหนักสุดในรอบหลายสิบปี

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี เริ่มตั่งแต่วันที่ 26 พ.ย. 67 ที่ผ่านมานั้น ถือว่าในปีนี้ เป็นปีที่น้ำท่วมสูงและยาวนานมากที่สุดกว่าที่ผ่านมา โดยน้ำท่วมในครั้งนี้ นอกจากสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนราษฎรได้รับความเดือดร้อนแล้ว ยังส่งผลต่อสถานที่ราชการ โรงเรียน ศาสนสถาน พื้นที่เกษตร รวมถึงสถานพยาบาล โดยเฉพาะกับสถานพยาบาล ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจนทำให้ โรงพยาบาลต้องปิดให้บริการถึง 4 โรงพยาบาล ได้แก่ 1.โรงพยาบาลหนองจิก ,2.โรงพยาบาลยะหริ่ง ,3.โรงพยาบาล ทุ่งยางแดง และ 4.โรงพยาบาลแม่ลาน ซึ่งล่าสุดสามารถเปิดให้บริการได้แล้ว 3 แห่ง ยกเว้นโรงพยาบาลหนองจิก เนื่องจากถูกน้ำเข้าท่วมสูง ทำให้อุปกรณ์ทางการแพทย์หลายอย่างได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทำให้ยังไม่สามารถเปิดบริการได้

ล่าสุดวันนี้ (7 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลหนองจิก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พบสภาพความเสียหายของโรงพยาบาลเกือบ 100% เนื่องจากน้ำได้เข้าท่วมทุกพื้นที่ของโรงพยาบาล ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือทางการแพทย์ เตียงผู้ป่วยถูกน้ำทำให้แผ่นไม้ของเตียงพองเสียหาย อุปกรณ์ทางการแพทย์ เอกสาร ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ได้รับความเสียหาย และพบว่าตัวอาคารเกิดรอยร้าวหลายแห่ง โดยในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ และบุคลากรของโรงพยาบาล ต่างช่วยกันทำความสะอาด และคัดแยกเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อคัดแยกส่วนที่ใช้ได้และเสียหายออกจากัน พร้อมทั้งเก็บกวาดทำความสะอาดและเก็บขยะ ทำให้เกิดกองขยะเป็นจำนวนมาก

ด้าน พญ.ปริญญา ยาโกะ นายแพทย์ชำนาญพิเศษ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองจิก กล่าวว่า ตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้รับความเสียหายก็คือ ครุภัณฑ์ เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องมือทางการแพทย์ เนื่องจากจมน้ำ แต่ก็ยังมีอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่สามารถยกขึ้นไว้ที่สูงได้ทัน รวมถึงความเสียหายด้านอาคาร สถานที่ ทำให้ในขณะนี้ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ แต่ทางโรงพยาบาลก็ได้มีการแก้ปัญหา ก็คือ ตั้งแต่วันที่ 29-30 พ.ย. ที่ไม่สามารถเปิดโรงพยาบาลได้ ทางโรงพยาบาลก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกหน่วยบริการที่วัดมุจลิน และที่คลินิกของเอกชน แต่ตั่งแต่วันที่ 2 ธ.ค. เราได้เปิดโรงพยาบาลสนาม ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอหนองจิก เพื่อรับผู้ป่วยนอก และอุบัติเหตุฉุกเฉิน ส่วนโรงพยาบาลจะเปิดทำการได้นั้น ก็คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะ 100%  เพราะในสัปดาห์นี้ พยายามเคลียร์ทำความสะอาดโรงพยาบาล และ อีก 2 สัปดาห์ต่อไปก็เป็นการกู้ระบบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลา 1 เดือน น่าจะเปิดได้เต็มระบบ ซึ่งขณะนี้จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้น โดยแยกได้ก็คือ 1.ความเสียหายของอุปกรณ์การแพทย์ เครื่องใช้ต่าง ๆ ครุภัณฑ์ อยู่ที่ประมาณ 40 ล้านบาท และ 2.ความเสียหายด้านอาคารสถานที่ประมาณ 5 ล้านบาท

ด้าน คุณ จิตติมา  อรุณรัตนา  หัวหน้าพยาบาล ผู้ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ขณะน้ำเข้าท่วมโรงพยาบาลเปิดเผยว่า วันที่ 28 พ.ย. 67 ช่วงเช้าน้ำยังแห้ง แต่พอช่วงบ่ายน้ำได้ทะลักเข้ามาเร็วมาก ทำให้กำแพงซึ่งเป็นกระสอบทรายด้านหน้าโรงพยาบาลแตก เราก็พยายามเร่งซ่อมกำแพง และอุกรอยรั่วได้ แต่กั้นได้ประมาณ 4 ทุ่ม กำแพงกระสอบทรายที่อยู่ด้านข้างรับแรงน้ำที่เชี่ยวแรงไม่ไหว ก็เลยทลายลง ทำให้นำไหลทะลักเข้ามาเหมือน้ำป่าไหลลาก เพียงแค่ 4 ชั่วโมงน้ำก็เข้าท่วมภายในโรงพยาบาลทั้งหมด ขึ้นมาในตึก เจ้าหน้าที่พยายามจะเร่งย้ายผู้ป่วย แต่ก็ทำไม่ได้ จนถึงเช้า โดยมีผู้ป่วยหลังคลอด จำนวน 3 คน ซึ่งครอบครัวได้นำย้ายโดยการใช้กะละมังออกจากโรงพยาบาลก่อนขึ้นเรือ ส่วนผู้ป่วนอีก 18 คน ก็ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลปัตตานี จนแล้วเสร็จ และพบว่ามีพยาบาลติดอยู่ชั้น 2 กู้ภัยได้เข้ามาช่วยเหลือ โดยการทุบกระจกและแกะลูกกรงออก จึงสามารถออกไปได้ และต้องไปอาศัยตามโรงแรมต่าง ๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกินระดับที่จะควบคุมได้

สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.ปัตตานี ล่าสุด ยังคงมีพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัย จำนวน 2 อำเภอ ได้แก่ 1.อ.เมือง  จำนวน 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.ปะกาฮะรัง ,ต.บาราเฮาะ และ ต.ตะลุโบะ  ,2.อ.หนองจิก จำนวน 2 ตำบล ประกอบด้วย ต.บ่อทอง และ ต.ลิปะสะโง รวมทั้ง 2 อำเภอ มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 12,660 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4,037 คน