รวบ 3 เมียนมา ยิง-แทงเพื่อนร่วมชาติ ปิดบัญชีทวงหนี้แค้น จนเหยื่อต้องแกล้งตาย

View icon 916
วันที่ 6 ธ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจแม่สอด รวบ 3 เมียนมาโหด! ยิง-แทงเพื่อนร่วมชาติ ปิดบัญชีทวงหนี้แค้น จนเหยื่อต้องแกล้งตาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส

6 ธ.ค. 67 เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด ,พ.ต.ท.เอกรัฐ  นุชเฉย รองผู้กำกับการสืบสวนพร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.แม่สอด จ.ตาก และเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้จับกุมตัวแก๊งทวงหนี้เพื่อนรักสุดโหดจำนวน 3 คน คือ 1.นาย อาจิช อายุ 22 ปี หัวหน้าแก๊งฉายา ดำซองสั้น  ,2.นาย ไนวินมิต ฉายาวินมีดฟุต รองหัวหน้าแก๊ง อายุ 24 ปี  และ 3.นายตูปิ อายุ 21 ปี ลูกสมุน

โดยทั้งหมดสัญชาติเมียนมา ซึ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนเถื่อนชนิดลูกซองสั้นยิง นายติ่น เมียว วิน อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นเพื่อนในแก๊งเดียวกัน พร้อมใช้มีดปลายแหลมยาวกว่า 1 ฟุต กระหน่ำแทงซ้ำจนเหยื่อต้องทำเป็นแกล้งตาย แต่บาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลแม่สอด โดยเหตุเกิดช่วงกลางดึกคืนวันที่  2 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.แม่สอด สามารถออกแกะรอยติดตามตัวคนร้ายทั้ง 3 คน ได้ที่กระท่อมร้างริมแม่น้ำเมย เขต อ.แม่สอด ติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ก่อนนำตัวทั้งหมดไปสอบสวนขยายผลที่ สภ.แม่สอด จ.ตาก

ล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.แม่สอด ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องเช่าที่สร้างติดกันสามห้อง พื้นที่หมู่ที่ 9 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนมากมาวางกำลังรักษาความปลอดภัยตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเพื่อป้องกันเหตุรุมประชาทัณฑ์ โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพผู้ต้องหาทั้ง 3 คนต่างให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดีโดยใช้เวลานาน 20 นาทีจึงทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วเสร็จตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ไปที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา สภ.แม่สอดโดยมีการจัดกำลังตำรวจเฝ้าอย่างรัดกุม

ด้าน พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด กล่าวว่า เหตุดังกล่าวซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์ โดยเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ได้รับแจ้งมีเหตุ 3 คนร้ายบุกเข้าไปในห้องเช่าที่เกิดเหตุ พร้อมใช้อาวุธปืนพกสั้นแบบลูกซองสั้นยิงและใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงนาย ติ่น เมียว วิน เจ้าของห้องเช่าจนร่างผู้บาดเจ็บพรุนไปทั้งร่างกาย และผู้บาดเจ็บต้องทำเป็นแกล้งตายจนคนร้ายตายใจคิดว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต ก่อนคนร้ายทั้ง 3 คนจะขับรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปแนวชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมนำอาวุธปืนลูกซองสั้นที่ใช้ก่อเหตุโยนทิ้งลงไปในแม่น้ำเมย เพื่อทำลายหลักฐาน ซึ่งตลอดเส้นทางการก่อเหตุแล้วหลบหนี กล้องวงจรปิดของตำรวจสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ และสามารถใช้เวลาเพียง 2 วัน จนสามารถคลี่คลายคดีนี้ได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนสาเหตุการบุกสังหารเพื่อนร่วมชาติเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ในแก๊งเดียวกันนั้น เบื้องต้นมาจากเรื่องส่วนตัวและปัญหาหนี้สินที่ฝ่ายคนร้ายบุกมาทวงเงินผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรอบ จนมีการนัดเจรจาหลายครั้งแต่ไม่เป็นผลจ นจบด้วยการใช้ปืนและมีดตัดสินปิดบัญชีทวงหนี้แค้นเพื่อนรักหักเหลี่ยม

นอกจากนี้ พ.ต.อ.พิทยากร ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับและสั่งการให้ตำรวจภูธรพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดตากและทั่วประเทศ ให้เข้มงวดตรวจสอบบุคคลต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จะต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบกฎหมายคนเข้าเมืองและห้ามไม่ให้มีการรวมตัวเป็นกลุ่มแก๊งและมีพฤติกรรมท้าทายกฎหมาย  หากปรากฎพฤติกรรมดังกล่าวขึ้นตำรวจ สภ.แม่สอดจะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด