วันนี้ (6 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้ใช้แอปพลิเคชัน TikTok แล้วมีชายแปลกหน้าใช้ภาพโพรไฟล์หน้าตาดี ผมสั้น แต่งกายเรียบร้อย ส่งข้อความมาชวนพูดคุย แล้วได้เปลี่ยนไปติดต่อกันผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เมื่อพูดคุยกันได้สักระยะบุคคลดังกล่าวได้ชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุน โดยอ้างว่าเป็นการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มชื่อ BANGKINGSERVICES ลงทุนง่าย ได้กำไรงาม ผ่านธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียลกรุ๊ป ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อและตัดสินใจร่วมลงทุน
ต่อมาผู้เสียหายเริ่มโอนเงินครั้งแรกจำนวน 6,000 บาท ผ่านไปสักระยะได้มีข้อความส่งกลับมา ว่าผู้เสียหายได้กำไร 665 บาท จึงได้ทดลองถอนเงินทั้งหมดออกจากบัญชี ปรากฏว่าสามารถถอนเงินออกมาได้จริง จำนวน 6,665 บาท ผู้เสียหายเห็นว่าโอนเงินแล้วได้เงินกลับมาจริง จึงได้ลงทุนเพิ่มอีกหลายครั้ง ครั้งละตั้งแต่ 40,000 จนถึง 100,000 บาท ต่อมาผู้เสียหายได้ติดต่อเพื่อขอถอนเงินที่ลงทุนไป ปรากฏว่าไม่สามารถถอนเงินได้ จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก สุดท้ายสูญเงินไปทั้งสิ้น จำนวน 250,000 บาท และได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดได้แล้ว จำนวน 4 หมายจับ และจับกุมมาดำเนินคดีได้แล้ว 1 คน กระทั่ง พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท.ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งรัดจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด โดย พ.ต.ต.รุ่งเรือง มีสติ สว.กก.4 บก.สอท.3 ได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก 1 คน คือ นายวิเชียร อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 810/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู้ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ที่บ้านพัก ในพื้นที่ ม.16 ต.ทุ่งทราย อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.3 มาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลเพื่อจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
