ทนายบริษัท ปัดนายจ้างบังคับลูกจ้างสาวลาออก ชี้สมัครใจเพราะทำยอดไม่ได้ตามที่ตกลง

View icon 582
วันที่ 5 ธ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ทนายความบริษัท ปัดนายจ้างบังคับลูกจ้างสาวลาออก ชี้สมัครใจเพราะทำยอดไม่ได้ตามที่ตกลง แต่ยังให้ทำงานที่ดีลค้างเอาไว้อยู่ ด้านนายจ้าง ยืนยันไม่มีการทำร้ายร่างกาย-ขู่ยิง แค่เรียกมาคุย เหตุไปเสนอราคาสินค้าต่ำกว่าบริษัทกำหนด

จากกรณีที่นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว พา น.ส.ปัทมพร อายุ 38 ปี อดีตพนักงานขายอาหารสัตว์โรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งหนึ่ง ย่าน อ.บางบัวทอง เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่า ถูกนายจ้างขู่บังคับให้เซ็นใบลาออกจากงาน และข่มขู่จะใช้ปืนยิงอีก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา นั้น

(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : จ่อออกหมายเรียกนายจ้าง บังคับเขียนใบลาออก-ขู่ยิงทิ้ง)

ทีมข่าวเดินทางไปที่โรงงานเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทางเจ้าของโรงงาน ซึ่งไม่อนุญาตให้บันทึกภาพและเสียง แต่ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียหายมาสมัครงานเป็นเซลขายสินค้าของบริษัท เพิ่งทำงานได้เกือบปี หลังเข้ามาผู้เสียหายทำงานไม่ได้ตามสัญญาที่ตกลงกันไว้กับทางบริษัท แต่สิ่งที่ผู้เสียหายทำงานแล้วบริษัทเสียหายคือเรื่องที่ผู้เสียหายไปเสนอราคาต่ำกว่าที่บริษัทกำหนด ทำให้เซลคนอื่นมาต่อว่าบริษัทว่าทำไมเขาถึงไม่ได้รับสินค้าราคาแบบนี้ ตนจึงมีการเรียกเขาพูดคุยกัน ยืนยันไม่ได้มีการทำร้าย หรือข่มขู่

ด้านทนายนิว ทนายประจำบริษัท ชี้แจงว่า เรื่องการทำร้ายร่างกายไม่เป็นเรื่องจริง ส่วนเรื่องการให้ทำใบลาออก ทางผู้เสียหายเขาสมัครใจ ถ้าเขาไม่สามารถทำได้เขาจะลาออก ก็เลยให้มีการเซ็นเอกสารไว้เป็นหลักฐาน แต่ยังให้เขาทำงานอยู่เพราะยังมีดีลงานเขาค้างอยู่ ผู้เสียหายรายนี้ ตอนทำงานเขาก็ยังยืมเงินของเจ้านายไป 300,000 บาท ทางเจ้านายเขาก็ให้ยืมโดยไม่ได้มีการคิดดอกเบี้ยและหักเงินเดือน เขาสะดวกจะจ่ายเท่าไรก็ได้ เนื่องจากเขามีปัญหาทางด้านครอบครัว เขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ทางเจ้าของบริษัทอยากให้เขาทำงานโดยไม่ต้องกังวล เจ้าของเขาดูแลพนักงานทุกคนเหมือนเป็นพี่เป็นน้อง เรื่องที่เกิดขึ้นก็อยากให้เขาเข้ามาพูดคุยกันที่บริษัท แต่วันนี้เขาไม่สะดวก โดยมีการนัดหมายมาพูดคุยกันในวันพรุ่งนี้ที่ สภ.บางบัวทอง

ทีมข่าวได้สอบถามน.ส.พจนา อายุ 39 ปี พนักงานธุรการบัญชี ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ขี้แจงว่า วันนั้นที่เขามาคุยก็เป็นเรื่องงาน เพราะเขาเคยบอกว่าถ้าเขาทำยอดไม่ได้เขาก็จะพิจาราณาลาออกสิ้นปีนี้ แล้วเจ้กับเฮียก็ถามว่ามีลูกค้าคนไหนบ้าง ให้ลิสต์มาเดี๋ยวจะไปจัดออเดอร์ส่ง มันไม่ตรงกับที่เขาแจ้งมา เฮียเขาก็โมโหปาแก้ว แต่ไม่ได้ปาใส่พี่เขา ปาใส่อ่างล้างจานแต่ไม่โดนใคร เพราะเขานั่งอีกฝั่งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร แล้วพี่เขาก็เซ็นใบลาออก

น.ส.พจนา กล่าวอีกว่า ตอนที่ตนเข้ามาทำงานใหม่ ๆ แล้วมีหมายศาลแจ้งมาให้ตนนำเงินไปใช้หนี้ที่กู้ผ่านบัตรเครดิต ตนก็ลางานเพื่อไปเจรจากับคู่กรณีที่ศาล เมื่อกลับมาเฮียถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนบอกว่าต้องหาเงินไปใช้หนี้เขาจำนวน 30,000 บาท เมื่อเฮียทราบเรื่องก็ให้ยืมเงินไปใช้หนี้โดยไม่มีการเก็บดอกเบี้ย ส่วนที่ผู้เสียหายเคยยืมเงินเฮียไป ตนก็มารู้เรื่องตอนหลังเพราะตนต้องจดบันทึกทำบัญชี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง