แม่ร้องลูกถูก ผบ.ร้อย ทหารพราน ทำร้าย จับใส่กุญแจมือ-ล่ามโซ่

View icon 184
วันที่ 4 ธ.ค. 2567
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - แม่ทหารพราน ยศสิบเอก ที่จังหวัดปัตตานี ร้องผู้สื่อข่าว หลังลูกชายถูกผู้บังคับบัญชา จับล่ามโซ่ในฐาน แถมทำร้ายร่างกายจนสลบ จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ล่าสุด โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เผยสั่งตั้งกรรมการสอบ และย้ายผู้บังคับกองร้อยที่ก่อเหตุแล้ว

คลิปภาพที่ญาติทหารพราน ยศสิบเอก นายหนึ่ง ถ่ายคลิปภาพไว้ หลังไปพบถูกใส่กุญแจมือล่ามโซ่ อยู่ในฐานทหารพรานแห่งหนึ่ง ที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ช่วงเช้าตรู่ วันที่ 1 ธันวาคม และยังพบว่าที่ใบหน้ายังมีเลือดออก

ภรรยาทหารพรานนี้ บอกว่า ไปพบสามีถูกใส่กุญแจมือ ล่ามโซ่ เพราะช่วงกลางคืน โทรศัพท์ไปหาหลายสายไม่รับ จึงสงสัยว่าเกิดเหตุร้ายหรือไม่ กระทั่ง 03.00 น. ไปที่ฐาน ทหารเวรก็ไปตามผู้บังคับกองร้อย พร้อมรองฯ มาพบ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดีว่า สามีสบายดี จอดรถไว้ที่ไหนให้เดินกลับไปขึ้นรถ

ตอนนั้นเธอไม่รู้จะทำอย่างไร จึงไปหาผู้ใหญ่บ้าน แล้วย้อนกลับไปที่ฐานอีกรอบ พร้อมผู้ใหญ่กับลูกน้อง 2 คน ก็ได้ยินเสียงตะโกนว่า อยู่ตรงนี้ มาช่วยไขกุญแจหน่อย ถูกใส่ไว้นาน 5-6 ชั่วโมง จนข้อมือเริ่มบวม จึงบุกเข้าไปก็พบสามี ก่อนช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล

ด้านแม่ทหารพราน บอกว่า หลังเห็นคลิปภาพก็ต้องตกใจว่าเหตุใด ผู้บังคับกองร้อย ต้องทำร้ายร่างกายกันจนบาดเจ็บสาหัส จมูกเบี้ยว เลือดไหลเต็มใบหน้า หน้าอกถูกกระทืบจนหายใจไม่ออก

ซึ่งจากการสอบถาม ผู้บาดเจ็บบอกกับภรรยาว่า ต้นเหตุทะเลาะวิวาทกันในฐาน หลังผู้บังคับกองร้อย ชวนดื่มสุราด้วยกัน แล้วต่างฝ่ายต่างมึนเมาโต้เถียงกันเรื่องน้องชายผู้บังคับกองร้อย ติดยาเสพติด จนไม่พอใจทำร้ายร่างกาย เมื่อเข้าห้องพัก ผู้บังคับกองร้อยก็บุกถีบประตูห้องจนพัง แล้วเข้าไปร้ายร่างกาย และจับใส่กุญแจมือ ล่ามโซ่ให้ตากฝน

เรื่องนี้ พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เผยว่า ทหารพราน ยศสิบเอก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขาดสติ หลังรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนร่วมงาน และมีความพยายามใช้อาวุธ ผู้บังคับบัญชาจึงร่วมกันควบคุมตัวเพื่อระงับสติ แต่ผู้บังคับกองร้อยไม่ได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือ รับทราบ จึงถือเป็นการกระทำผิดวินัย

เมื่อวาน พันเอก ปรเมธ ศานุพงศ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 ได้ไปเยี่ยมทหารพรานนายดังกล่าว ที่โรงพยาบาลโคกโพธิ์ พร้อมทำความเข้าใจกับญาติแล้ว และออกคำสั่งย้ายผู้บังคับกองร้อย ไปปฏิบัติงานที่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง