ทุกหน่วยงานเร่งสำรวจพื้นที่น้ำลด กำหนดแนวทางเยียวยา ในพื้นที่ภาคใต้โดยเร็วที่สุด

View icon 149
วันที่ 2 ธ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
นายกฯ สั่ง ศปช.เดินหน้าตรวจสอบพื้นที่ที่ตกหล่นหลังน้ำเริ่มลด เตรียมเข้าสู่โหมดเยียวยาในทุกมิติ ในรูปแบบแม่สายโมเดล

วันนี้( 2 ธ.ค.67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษก ศปช. เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะ ผอ.ศปช.  ย้ำข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ช่วยเหลือต่อเนื่อง และประสาน ศอ.บต. ส่งอาหารเข้าพื้นที่ที่ถูกตัดขาด จัดเรือท้องแบน จากหน่วยทหารและเอกชนกว่า 50 ลำ อพยพผู้สูงอายุ เด็ก และขนอุปกรณ์ช่วยเหลือ รวมทั้งให้ ปภ. ส่งเรือเข้าไปช่วยประมาณ 100 ลำ ทั้งนี้ ได้ย้ำว่า แม้ไม่มีเรื่องดินโคลนเหมือนอุทกภัยในภาคเหนือ แต่การประสานงาน ดูแลต้องต่อเนื่องและรวดเร็ว

โดยนายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการ ทั้งแผนระยะสั้นและแผนระยะกลาง  และเมื่อน้ำลดจะเร่งดำเนินการฟื้นฟูเยียวยาต่อไป พร้อมให้ประสานกรมบัญชีกลาง เพิ่มงบ ทดรองจ่ายของผู้ว่าราชการจังหวัด และ ปภ. เร่งจัดสรร สรรพกำลัง อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือ  โดยเฉพาะ พาหนะทางน้ำ ตามที่ได้รับการร้องขอจากพื้นที่ทันที รวมทั้งทุกหน่วยงานอพยพผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง ไปยังจุดปลอดภัย พร้อมให้กระทรวงสาธารณสุข ระดมแพทย์และบุคลากรทั้งหมดในพื้นที่ขนย้ายผู้ป่วยออกจากพื้นที่วิกฤตและจัดตั้งศูนย์พักพิงให้ความช่วยเหลือและอยู่อาศัยได้จนเข้าสู่ภาวะปกติ

"ตั้งแต่วันแรกที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ปภ.ได้ประสาน กสทช.และค่ายมือถือส่ง SMS ไปยังประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดที่มีความเสี่ยงประสบภัยรุนแรง ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และนครศรีธรรมราช ทำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมตัวได้ทัน มีการขนย้ายข้าวของไปไว้บนที่สูง ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้จำนวนมาก"

นายจิรายุ ฯ กล่าวต่อไปว่า  นอกจากนี้รัฐบาลยังเร่งให้ความช่วยเหลือต่อเนื่อง โดยกรมชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำ 33 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 7 เครื่อง เร่งระบายน้ำ ควบคู่กับการนำเรือและรถยนต์ยกสูงของหน่วยงานราชการ  เข้าช่วยเหลือประชาชน โดยมีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานกระจายไปในพื้นที่น้ำท่วม ขณะที่กรมปศุสัตว์มีการอพยพสัตว์จำนวน 2,431 ตัว และนำหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน 10,760 กิโลกรัม แจกให้เกษตรกรช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ

ล่าสุด (30 พ.ย.)ที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางได้อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการให้กับ 6 จังหวัดภาคใต้ที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ได้แก่ สงขลา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราชเพิ่มเติมแล้วจังหวัดละ 50 ล้านบาทเป็น 70 ล้านบาท เพื่อนำไปช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ และให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประสบภัย

"นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเมื่อคืนที่ผ่านมา  ให้ทุกหน่วยงานเร่งสำรวจโดยเฉพาะพื้นที่ที่น้ำลดว่า มีความเสียหายรูปแบบใดและให้กำหนดแนวทางเยียวยานำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป  โดยผ่านกลไก ศปช. ซึ่งมีการทำงานต่อเนื่องตั้งแต่อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ และสามารถเตรียมความพร้อมรับมือเหตุการณ์ในภาคใต้ได้อย่างทันท่วงที " นายจิรายุ กล่าว