“อนุทิน” เผยน้ำท่วมใต้มีแนวโน้มดีขึ้น หลังฝนจะเริ่มลดลง 1 ธ.ค.นี้ เตรียมพร้อมดูแลหลังน้ำลดเต็มที่
วันนี้ (29พ.ย.67) ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใต้ จากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่รายงานสดผ่านการประชุมทางไกล จากจังหวัดนราธิวาส
นายอนุทิน รายงานว่า ขณะนี้ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง มีระดับน้ำท่วมในเมืองมากพอสมควร รวมถึงที่สนามบิน แต่ได้ขุดทางระบายน้ำออกแล้ว เพื่อไม่ให้น้ำไกลท่วมเข้ามาในรันเวย์ จึงไม่ได้ยกเลิกเที่ยวบิน
ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 9 จังหวัด ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยเน้นเข้าไปช่วยเหลืออพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งมีทั้งกลุ่มผู้ป่วย กลุ่มเปราะบาง และการขนย้ายสิ่งของสำคัญไปอยู่ในที่ รวมทั้งได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ทั้งบริเวณจุดอพยพ ศูนย์พักพิงชั่วคราว และบ้านเรือนประชาชน
การดูแลด้านการดำรงชีพ ได้จัดตั้งโรงครัว ประกอบอาหารไปจ่ายแจกผู้ประสบภัย ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็การจัดตั้งโรงครัวพระราชทานเสริม เพื่อส่งอาหารไปให้ผู้ประสบภัย โดะจากการตรวจสอบ การจัดเตรียมอาหาร อุปกรณ์ดำรงชีพ ถุงยังชีพ ทางจังหวัดได้ร่วมมือกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีประชาชนที่ประสบภัยถูกทอดทิ้ง และได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึง
การจัดทีมแพทย์ ทุกจังหวัดได้ประสานสาธารณสุข และได้จัดตั้งศูนย์บริการดูแลสุขภาพ ร่างกาย และจิตใจ และได้เตรียมยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้กับผู้ประสบภัย
ด้านการดูแลความอำนวยความสะดวก ได้ติดตั้งป้ายแจ้งเตือน ทางเลี่ยง พร้อมทั้งเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบประชาชนให้มากที่สุด รวมถึงจัดรถบรรทุกที่จะขนส่งประชาชนในเส้นทางที่จำเป็น
ส่วนการสนับสนุนยานพาหนะ โดยเฉพาะเรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุกน้ำ เครื่องยนต์เรือพร้อมอุปกรณ์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย และกระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ คาดว่า สถานการณ์มีแนวโน้มจะดีขึ้น ฝนจะลดลงตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป และจะทำให้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายลง จากนั้น จะเร่งสำรวจความเสียหาย ผลกระทบด้านต่าง ๆ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วต่อไป
///////
