น้ำป่าพัด รถซาเล้ง ตกน้ำ

View icon 44
วันที่ 28 พ.ย. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - 3 จังหวัดภาคใต้ น้ำท่วมหนัก หลังฝนตกต่อเนื่อง อย่างเมื่อวานนี้ น้ำป่าซัดรถจักรยานยนต์พ่วงข้างพลิกตะแคง จนข้าวของเสียหาย

น้ำป่าพัด รถซาเล้ง ตกน้ำ
ผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง โพสต์คลิปคุณลุง คุณป้า ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง อยู่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จากคลิปจะเห็นว่าน้ำซัดมา จนตัวรถเริ่มชิดไหล่ทางด้านซ้าย พอคนถ่ายคลิปสังเกตเห็น ก็บีบแตรเตือน แต่ไม่ทัน รถซาเล้งเสียหลักไถลคว่ำลงข้างทาง จนข้าวของที่อยู่ในรถ ถูกน้ำพัดหายไป ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างหยุดรถช่วยเหลือ แต่ก็ยากลำบาก เพราะน้ำซัดแรง แต่สุดท้ายก็นำรถขึ้นมาได้ ส่วนลุงกับป้าปลอดภัย มีเพียงข้าวของที่เสียหาย คนไทยไม่ทิ้งกันจริง ๆ

โรงปั้นเซรามิกชื่อดัง โอดครวญ เสียหายหนัก
ส่วนที่ จังหวัดปัตตานี โรงงานผลิตเซรามิกชื่อดัง เผยภาพความเสียหาย และความรู้สึกจากน้ำท่วมในครั้งนี้ ผ่านเฟซบุ๊กว่า ร่วมทุกข์กัน บรรยากาศโรงปั้น ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ลุ้นทุกเวลา ทุกอย่างจมแล้ว น้ำปริ่มกำลังเข้าห้องนอน เราพบอะไรกันมามากมาย เพื่อให้ผ่านบททดสอบ และรอฝนหนักรอบถัดไป และการปล่อยน้ำจากเขื่อน และตอนนี้น้ำกำลังขึ้นเรื่อย ๆ ขอเป็นกำลังใจและภาวนาให้ทุกคนปลอดภัย

สำหรับลูกค้าที่รอรับของที่สั่ง เราเตรียมแพ็คของเรียบร้อยแล้วครับ แต่ที่ทำการขนส่งปิด เราจึงขออนุญาตเลื่อนส่งจน ขนส่งเปิดทำการเป็นปกติ เรียนแจ้งและขออภัยมาก ๆ
 
อ่วม! หลายอำเภอน้ำทะลัก
ส่วนสถานการณ์ที่ จังหวัดสงขลา หลายอำเภอยังน่าเป็นห่วง เช่น พื้นที่อำเภอจะนะ ตั้งแต่ช่วง 04.00 น. น้ำจากพื้นที่ อำเภอนาทวี ไหลทะลักเข้าท่วมตัวเมือง กระแสน้ำไหลแรงมาก ส่งผลให้พื้นที่เขตตัวเมืองถูกน้ำท่วมเรียบร้อยแล้ว

เช่นเดียวกับที่ อำเภอเทพา น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ตัวเมืองเทพา ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด กระแสน้ำไหลแรง ทำให้ชาวบ้านเก็บข้าวของกันแทบไม่ทัน ส่วนที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ และพื้นที่ตลาดเทพา ก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน และระดับน้ำยังพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ที่อำเภอสะเดา น้ำท่วมในหลายชุมชน เช่น หมู่บ้านสะพานม้า ชุมชนบ้านไพร ชุมชนท่าพรุ ขณะนี้พื้นที่อำเภอสะเดาทุกพื้นที่ ยกธงแดงเรียบร้อย เพราะสถานการณ์หนักมาก

ประกาศระวังน้ำล้นตลิ่ง - น้ำท่วมขัง
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศ เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ภาคใต้ตอนล่าง ช่วงวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม ประกอบด้วย แม่น้ำปัตตานี อำเภอเมืองฯ จังหวัดยะลา, อำเภอยะรัง และอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 2.0-2.5 เมตร, แม่น้ำสายบุรี บริเวณอำเภอรามัน จังหวัดยะลา ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 2.0-2.8 เมตร, คลองตุยง บริเวณ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.8-1.5 เมตร, แม่น้ำโก-ลก บริเวณ อำเภอสุไหงปาดี แว้ง สุไหงโก-ลก และตากใบ จังหวัดนราธิวาส ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.4-2.0 เมตร, คลองตันหยงมัส บริเวณ อำเภอเมืองฯ ระแงะ และยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.5-2.3 เมตร

เตือนภัย ภาคใต้ ฝนตกหนัก
ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่องฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ คลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 6

บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากจีน แผ่ปกคลุมไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ มีกำลังค่อนข้างแรง ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำ ปกคลุมบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศมาเลเซีย จะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่บริเวณ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

น้ำท่วมภาคใต้ ได้รับผลกระทบ 136,219 ครัวเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่า ปัจจุบันมีอุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด 50 อำเภอ 321 ตำบล 1,884 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 136,219 ครัวเรือน ได้แก่ 1.จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 อำเภอ เสียหาย 91 ครัวเรือน 2.จังหวัดนครศรีธรรมราช 8 อำเภอ เสียหาย 34,513 ครัวเรือน 3.จังหวัดสงขลา 15 อำเภอ คือ เสียหาย 23,181 ครัวเรือน 4.จังหวัดปัตตานี 8 อำเภอ เสียหาย 8,442 ครัวเรือน 5.จังหวัดยะลา 5 อำเภอ เสียหาย 27,425 ครัวเรือน 6.จังหวัดนราธิวาส เสียหาย 42,294 ครัวเรือน 7.จังหวัดสตูล 1 อำเภอ คือ ควนโดน เสียหาย 273 ครัวเรือน