สนามข่าว 7 สี - "ผบ.ตร." นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมความคืบหน้าการดำเนินคดี "หมอบุญ" และคดีสำคัญอื่น ๆ ขณะที่ "อี้ แทนคุณ" ออกมาแฉ "หมอบุญ" เตรียมเผ่นหนีจากประเทศจีน ไปบางประเทศโซนยุโรป
แฉ หมอบุญ เตรียมเผ่นจากจีน ไปบางประเทศในยุโรป
เรียกว่าเป็นอีกคนที่เดินหน้าสุดซอยเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายในคดี "หมอบุญ" สำหรับ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม เผยความคืบหน้าหลังพาผู้เสียหาย 2 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ว่า ยังมีผู้เสียหายติดต่อมาเรื่อย ๆ ทุกวัน
ที่ต้องจับตาดูใกล้ชิดช่วงหลังวันที่ 12 ธันวาคม เป็นวันที่ตั๋วใช้แทนหุ้นชุดเดิมจะหมดอายุ หรือถึงวาระที่จะต้องชำระในวันที่ 12 ธันวาคม คาดว่าน่าจะไม่มีชำระ จะมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นน่าจะอยู่ที่จำนวน 500-600 ราย มูลค่าความเสียหายน่าจะแตะถึง 25,000 ล้านบาท
นายแทนคุณ ยังบอกอีกว่า ตามกระแสที่ปรากฏก่อนหน้า "หมอบุญ" เผ่นหนีไปประเทศจีน แต่เท่าที่ตนรู้มา "หมอบุญ" เตรียมหนีไปบางประเทศโซนยุโรปที่มีคอนเนกชันอยู่ ก็หวังว่าเจ้าหน้าที่จีนและตำรวจไทย จะประสานตำรวจสากลตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้
ด้าน นายอัสสเดช คงสิริ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยว่า ยังไม่มีหน่วยไหนมาขอข้อมูล แต่พร้อมให้ข้อมูลในเรื่องการออกใบหุ้นชักชวนนักลงทุน แต่ว่าลักษณะของ หมอบุญ เป็นการออกใบหุ้นนอกตลาด ไปทำในนามส่วนตัว และจากข้อมูลที่มียังไม่เกี่ยวกับบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (THG) พร้อมเตือนสตินักลงทุน ต้องคิด มีสติ และต้องมีข้อมูลอย่างลึกซึ้งว่าการลงทุนได้ผลตอบแทนคุ้มหรือไม่
ผบ.ตร.เรียกประชุมคดี หมอบุญ
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า คดีนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พร้อมแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมารับผิดชอบดูแลภาพรวมคดีนี้แล้ว ไม่มีการปล่อยผ่าน หรือเพิกเฉย และย้ำว่า หากหน่วยงานใดปล่อยปละละเลยจะดำเนินการทางการปกครองกับหัวหน้าหน่วยทันที
ด้าน ตำรวจ บก.ปอศ. ระบุว่า ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องการโอนสำนวนคดีหมอบุญ ไปให้ DSI เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมความเสียหาย
เรื่องนี้จะไปสอดคล้องกับที่ พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ หนึ่งในโฆษก DSI บอกว่า ต้องรอการประสานจากทางตำรวจ เพื่อนำรายละเอียดมาดูก่อนว่า เนื้อในคดีนี้เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษตามบัญชีแนบท้ายหรือไม่ เพราะตอนนี้รู้แค่จำนวนและมูลค่าความเสียหายเข้าหลักเกณฑ์ แต่พฤติการณ์ยังไม่รู้ว่าเข้าหรือไม่เข้ากับข้อกฎหมายคดีพิเศษ
