สำหรับ “คริสเตียน” เข้ามาโชว์ฝีมือครั้งแรกใน ONE ตั้งแต่เดือน ธ.ค.58 โดยเริ่มต้นต่อสู้ในรุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ก่อนไต่เต้าจนกระทั่งสามารถขึ้นท้าชิงบัลลังก์ในปี 2561 แต่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน พ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย จนทำให้เจ้าตัวตัดสินใจขยับน้ำหนักขึ้นสู่รุ่นไลต์เวตในเวลาต่อมา
เพียงแค่ไฟต์แรกหลังปีนขึ้นสู่รุ่นไลต์เวต เจ้าตัวก็ช็อกโลกด้วยการหักปากกาเซียนเอาชนะทีเคโอนักสู้ระดับตำนานชาวญี่ปุ่น “ชินยะ อาโอกิ” เจ้าของบัลลังก์ ณ ขณะนั้น ขึ้นเป็นแชมป์คนใหม่ได้สำเร็จ ซึ่งหลังจากนั้น เจ้าตัวป้องกันแชมป์โลกได้อีก 2 ครั้ง ก่อนจะมาแพ้คะแนนให้กับ “อ็อก เร ยุน” ผู้ท้าชิงชาวเกาหลีใต้ เสียเข็มขัดไปในเดือน ก.ย.64
หลังจากนั้น “คริสเตียน” รอคอยโอกาสรีแมตช์ภาคสองกับคู่ปรับเก่า “อ็อก เร ยุน” และ 11 เดือนหลังจากนั้น เจ้าตัวก็คว้าโอกาสนั้นไว้ และสามารถล้างแค้นด้วยการเอาชนะทีเคโอ ได้ในยกสอง กระชากเข็มขัดคืนได้สำเร็จ ในเดือน ส.ค.65
หลังจากทวงแชมป์คืนได้แล้ว “คริสเตียน” ปีนขึ้นสู่รุ่นเวลเตอร์เวต (170-185 ป.) เพื่อไล่ล่าเข็มขัดเส้นที่สอง โดยได้โอกาสขึ้นท้าชิงบัลลังก์ในศึก ONE Fight Night 4 เมื่่อเดือน พ.ย.65 ซึ่งวันนั้นเจ้าตัวโชว์ฟอร์มโหดเอาชนะทีเคโอ “เคียมเรียน อับบาซอฟ” ในยกที่ 4 ขึ้นเป็นราชัน ONE MMA สองรุ่นได้สำเร็จ
และนั่นคือไฟต์ล่าสุดที่เจ้าตัวขึ้นสังเวียน ONE เพราะหลังจากนั้นไม่นานก็เกิดข่าวเศร้ากับ “ตระกูล ลี” เมื่อ “วิกตอเรีย ลี” น้องสาวคนที่ 3 ของตระกูลจากไปอย่างไม่มีวันกลับในช่วงปลายปี 2565 ทำให้ “คริสเตียน” ต้องขอพักจากการต่อสู้เพื่อใช้เวลาเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจตั้งแต่นั้นมา
จนถึงตอนนี้สองปีผ่านไป “คริสเตียน” ได้ฤกษ์คืนสังเวียนด้วยควมมุ่งมั่นเต็มที่เพื่อ ป้องกันเข็มขัด รุ่นไลต์เวต จาก “อาลิเบก” ผู้ท้าชิงเจ้าของสถิติ 14 ไฟต์ไร้พ่าย
โดย “อาลิเบก” เพิ่งเปิดตัวใน ONE เป็นครั้งแรกในรายการ ONE Fight Night 23 เมื่อ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ในศึกชิงแชมป์โลก ONE MMA รุ่นไลต์เวต เฉพาะกาล กับ “อ็อก เร ยุน” คู่ปรับเก่าของ “คริสเตียน” และเป็นฝั่ง “อาลิเบก” ที่เอาชนะคะแนนไปได้ แต่เนื่องจากทำน้ำหนักไม่ผ่าน ทำให้ไม่มีสิทธิ์ได้ครองเข็มขัด
ครั้งนี้จึงเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของ “คริสเตียน” ที่จะมาประกาศศักดาแชมป์โลก ต้องรอลุ้นว่าเขาจะรักษาสถานะ “ดับเบิลแชมป์” ได้ต่อไป หรือต้องเสียเข็มขัดสุดรักสุดหวงไปให้ผู้ท้าชิง
ศึก ONE Fight Night 26 นอกจากคู่ “คริสเตียน vs อาลิเบก” แล้ว ยังมีการชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE ปล้ำจับล็อก รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) โดยเป็นการเจอกันเป็นครั้งที่สองระหว่าง “เมซซา บาสโตส” เจ้าของแชมป์โลกชาวบราซิล พบกับคู่ปรับเก่า “แดเนียล เคลลี” อดีตราชินีของรุ่นนี้ จากสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ นักกีฬาไทยจะเปิดศึกสายเลือดถึง 3 ไฟต์ด้วยกัน เริ่มกันที่รองคู่เอก “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) จะดวลกับ “นาบิล อานาน” ดาวรุ่งหมัดยางยืด วัย 20 ปี เชื้อสายไทย – แอลจีเรีย – ฝรั่งเศส ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต
นอกจากนี้ ยังมี “นักรบ แฟร์เท็กซ์” นักสู้บู๊เดือดจากสุรินทร์ จะพบกับ “ก้องธรณี ส.สมหมาย” มวยซ้ายเฉียบคม วัย 27 ปี จากเพชรบูรณ์ ในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) และ “ทองพูน พีเค.แสนชัย” นักสู้ทรงอย่างแบด จากมหาสารคาม พบกับ “แดเนียล วิลเลียมส์” นักสู้หนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสซี ในกติกามวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) รวมทั้งหมด 12 คู่ เตรียมระเบิดความมันในเช้าวันเสาร์ที่ 7 ธ.ค.นี้
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 08.00 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 10.00 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH
ติดตาม ONE Championship และ ONE ลุมพินี ได้ที่ : https://www.ch7.com/one-championship
ช่องทางถ่ายทอดสด
- FACEBOOK : https://www.facebook.com/Ch7HD
- YOUTUBE : https://www.youtube.com/ch7hd
- ช่อง 7HD กด 35
- เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน BUGABOO.TV