บุกจับ สามารถ-แม่ คดี ดิไอคอนกรุ๊ป

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ดีเอสไอจับ "แม่สามารถ" คุมตัวมาสอบสวน หลังศาลออกหมายจับฐานฟอกเงิน-สมคบกันฟอกเงินคดีดิไอคอน ก่อนจะบุกรวบตัว "สามารถ" ที่เชียงราย

บุกจับ สามารถ-แม่ คดี ดิไอคอนกรุ๊ป
จากกรณีปรากฏคลิปเสียงนักการเมืองตัวย่อ "ส." เรียกรับทรัพย์จากผู้บริหาร ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ก่อนจะมีเชื่อมโยงว่า ที่แท้นักการเมืองตัวย่อ "ส." คือ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.20 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ คุมตัวแม่ของนายสามารถ จากบ้านพักที่เขตราชเทวี กรุงเทพฯ หลังจากเมื่อวานนี้ ศาลอาญา อนุมัติหมายจับนายสามารถ และแม่ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

กระทั่งเวลา 12.40 น. ตำรวจบุกจับกุมนายสามารถ ระหว่างอยู่ใกล้กับวัดห้วยปลากั้ง จังหวัดเชียงราย และได้ควบคุมตัวไว้ที่ สภ.บ้านดู่ โดยนายสามารถ แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว ลายจุด สวมกางเกงขายาวสีเทาเข้ม ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ระหว่างประสานรับตัวกลับมาดำเนินคดีที่กรุงเทพ

มีรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้าน ไม่เจอตัวนายสามารถ แต่สังเกตว่า แอร์ยังเปิดอยู่ ถอดเสื้อทิ้งไว้ เหมือนเพิ่งออกไปช่วงเช้ามืด จนถูกจับกุมในที่สุด

เปิดเส้นทางเงินโยง สามารถ-แม่
พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า กรณีนี้พบเส้นทางการเงินในบัญชีของบริษัทฯ โอนต่อมาที่นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ต่อมาบอสพอล และบอสปีเตอร์ โอนต่อไปยังบัญชีแม่ของนายสามารถ และโอนไปให้ นายสามารถ อีกทอด

เบื้องต้นมีร่องรอยการทำธุรกรรมรับโอน ตั้งแต่ช่วงปี 2564 โดยบัญชีของแม่นายสามารถ มียอดเงินรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท เป็นการรับโอนเงินจากทางอื่น แต่ส่วนที่รับโอนโดยตรงจาก "บอสพอล" มีประมาณ 2.5 ล้านบาท อีกทั้งยังรับโอนจาก "บอสปีเตอร์" หลายแสนบาท หากแม่ของนายสามารถ จะกล่าวอ้างว่า เงินหลายล้านบาทนี้ เป็นเงินทำบุญ หรือเงินใดนั้น เป็นสิ่งที่ให้การได้ แต่ดีเอสไอจะต้องพิสูจน์ว่า เป็นเงินทำบุญจริงหรือไม่ และเหตุใดจึงเป็นเงินทำบุญทุกเดือน ลักษณะเป็นไปตามวงรอบ ของแต่ละเดือน

ส่วนสาเหตุที่เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงินทางอาญา เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน หรือมีลักษณะปกปิดอำพราง

ยืนยัน บอสพอล โอนเงินช่วยทำบุญ
วันเดียวกัน ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ "บอสพอล" พาพยานของบริษัทดิไอคอนฯ กลุ่มแรก จำนวน 200 ราย จากทั้งหมด 2,000 ราย เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อขอให้สอบปากคำพยานทั้ง 200 ราย เข้าสู่สำนวนคดี เป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของ 18 บอส และแผนธุรกิจของดิไอคอนฯว่า ไม่ได้มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่

ทั้งนี้ ทนายวิฑูรย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสามารถ และแม่ถูกจับกุมว่า "บอสพอล" และแม่ของนายสามารถ รู้จักกันมานาน เงินทองที่โอนไปให้ ก็เป็นการหยิบยืม และโอนไปให้ทำบุญ

ตัวแทนการันตี ดิไอคอนฯ สร้างอาชีพ
ตัวแทนพยานของ ดิไอคอน รายหนึ่ง เป็นหญิงอายุ 42 ปี มาจากบุรีรัมย์ บอกว่า เข้าร่วมธุรกิจดิไอคอนตั้งแต่ปี 2562 ยืนยันว่าเป็นระบบการเรียนรู้สอนให้คนทำมาหากิน สอนให้ประสบความสำเร็จทางออนไลน์

ก่อนหน้านี้เป็นแม่ค้าในตลาด สนใจธุรกิจออนไลน์จึงเข้าร่วมกับดิไอคอน รายได้ล่าสุดต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท แต่ก็ไม่แน่นอน พอมีคดีความ ทำให้สินค้าขายได้น้อยลง เพราะคนไม่เชื่อใจ ทำให้ตนได้รับผลกระทบ

ฟิล์ม รอลุ้นหมายเรียก หรือหมายจับ
ด้าน พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงเส้นทางการเงินของนายสามารถว่า นายสามารถ มีเงินไหลเข้าบัญชีรวมกว่า 110 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีเงิน 3 ล้านบาท ที่มาจากดิไอคอน ผ่านบัญชีม้า ซึ่งเป็นบัญชีที่นายสามารถ ดูแลและบางส่วนถูกโอนไปยังบัญชีของมารดา ก่อนเงินจำนวนดังกล่าว จะถูกส่งต่อกลับมายังบัญชีนายสามารถอีกครั้ง

ทั้งนี้ช่วงปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง เตรียมจะมอบ "กุญแจมือ" เป็นของขวัญให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ นักร้องคนดัง และผู้ดูแลเพจโซเชียลต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี โดยจะส่งทุกคนไปพักห้องวีไอพีในเรือนจำ หากพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงการกระทำความผิด

ส่วนกรณี "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ขณะนี้ได้ส่งสำนวนไปให้กองบังคับการปราบปรามแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกหมายเรียก หรือหมายจับ คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้