โจ๋ฝั่งธนบุรีหัวร้อน ฉุนคุณตาอายุ 70 ปี คนขับแท็กซี่ปาดหน้า ทำร้ายกรามแตก

View icon 1
วันที่ 24 พ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ return part 6 เผยแพร่เรื่องราวลุงแท็กซี่อายุประมาณ 70 ปี ถูกทำร้าย ระบุข้อความว่า “ทำร้ายคุณลุงอายุ 70 ทำไม.. เกิดอุบัติเหตุทำไมไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ พี่คิมครับ ลุงไม่มีญาติ อายุ 70 โดนทำร้าย หาเงินเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ อยากให้เป็นสื่อกลางให้หน่อยนะครับ ลุงแท็กซี่โดนทำร้ายโครงหน้าหัก กรามแตก 2 ข้าง ตอนนี้ยังไม่ออกจากโรงพยาบาล ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีญาติ”

ล่าสุดวันนี้ (24 พ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังที่เกิดเหตุ บริเวณแยกอรุณอมรินตรงมาจากสะพานพระราม 8 และได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายจักร อายุ 50 ปี เป็นไรเดอร์ซึ่งขับผ่านช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ก่อนเปิดเผยว่า ช่วงค่ำของวันนั้นตนได้ไปรับออร์เดอร์แล้วขับผ่าน สังเกตเห็นว่ามีวัยรุ่นขับจักรยานยนต์คาดว่าน่าจะมา 2 คน กำลังโวยวายลุงขับรถแท็กซี่ซึ่งมีอายุมากแล้ว ตนก็คิดว่าคงจะมีปัญหาเรื่องการขับขี่รถ จึงคิดว่าแค่จะมีการต่อว่ากันไม่ได้จะมีการลงไม้ลงมือ จึงขี่ไปรับออร์เดอร์ต่อ จนกระทั่งมาทราบจากผู้สื่อข่าวว่าคนขับแท็กซี่ดังกล่าวถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ตนก็อยากเตือนว่าให้ผู้ชายรถถนนให้ใจเย็นกันหน่อย มีอะไรก็ให้ยอมกันบ้าง จะได้ไม่เกิดเหตุรุนแรง

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์ พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน โดยเปิดเผยว่า เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา ญาติผู้เสียหายได้มาแจ้งความเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 67 ว่า นายเหิม จารัตน์ คนขับรถแท็กซี่คนดังกล่าวถูกทำร้าย และคู่กรณีได้หลบหนีไป จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ โดยมีลักษณะโวยวาย จึงควบคุมตัวให้มาสงบสติที่ สน.บางยี่ขัน และทำประวัติ แต่เนื่องจากอำนาจควบคุมตัวนั้นยังไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ เนื่องจากผู้เสียหายยังไม่สามารถให้การได้ ซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช จึงได้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยทราบชื่อคือ นายไกด์ โอรส อายุ 23 ปี บอกว่าโมโห ไม่พอใจที่ผู้เสียหายขับรถปาดหน้า

เบื้องต้นผู้เสียหายได้ให้ปากคำที่โรงพยาบาล โดยมีพนักงานสอบสวนไปขอปากคำที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ยังคงต้องรอผลจากแพทย์เพื่อจะแจ้งข้อกล่าวหา โดยในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ย. 67) จะเรียกตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำที่ สน.บางยี่ขัน และคาดว่าจะนำส่งฝากขังที่ศาลอาญาตลิ่งชันในวันพรุ่งนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป