เจ้าหน้าที่ พฐ. ยุติค้นหา หลังขุดเจอ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์เถื่อน ญาติอุทิศใช้ #ฝึกตาทิพย์หูทิพย์ เก็บ DNA รอประสานญาติรับไปบำเพ็ญกุศล ขณะที่สำนักสงฆ์ถูกปรับ 3,000 บาท ผิดเก็บ ฝังศพนอกสุสาน
จากกรณีสื่อโซเชียลเผยแพร่ข่าวสำนักสงฆ์ในตำบลสลกบาตร จังหวัดกำแพงเพชร สอนหูทิพย์–ตาทิพย์ ปิดตาทายภาพและตัวเลขนั้น พร้อมเตรียมบุกพิสูจน์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่อมาทางสำนักสงฆ์แจงเป็นคลิปเก่า ปัจจุบันไม่มีการสอนแล้ว
ความคืบหน้า วันนี้ (21 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.กำแพงเพชร, เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี, ฝ่ายปกครองอำเภอขาณุวรลักษบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดสลกบาตร ได้ลงพื้นที่บริเวณป่าทึบ หลังกุฎิพระสงฆ์ และโดยรอบที่ใช้ทำกิจกรรมการฝึกนั่งวิปัสสนากรรมฐานกับศพ เพื่อทำการขุดศพออกมาจากหลุม และโลงศพ เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ นำไปตรวจ DNA และพิสูจน์เอกลักษณ์
โดยทางสำนักสงฆ์ได้แจ้งญาติของศพได้บางส่วน เพื่อให้มาแสดงตัวและจัดการฌาปนกิจศพอย่างถูกต้อง หลังทราบผลตรวจ DNA แล้ว ส่วนศพอื่นเจ้าหน้าที่จะยังเก็บรักษาศพไว้ที่โรงพยาบาลในพื้นที่ก่อนเพื่อรอญาติมารับ ส่วนกิจกรรมฝึกเรียนหูตาทิพย์และนั่งสมาธิกับศพ ก็ให้งดเด็ดขาด เหลือเพียงการปฏิบัติธรรม ตามคำสั่งของสำนักพุทธจังหวัดกำแพงเพชร ที่ได้ลงเอกสารไว้ในวันที่เข้ามาตรวจสอบสำนักสงฆ์แห่งนี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากใช้เวลากว่า 3 ชม. เจ้าหน้าที่ได้ยุติการตรวจค้น โดยการตรวจสอบบริเวณที่พักสงฆ์ พบเพิงที่ใช้พักศพ จำนวน 17 จุด มีร่างผู้เสียชีวิตและโครงกระดูกบรรจุอยู่ในโลงศพตั้งอยู่ในเพิงที่ใช้พักศพดังกล่าว 12 หลัง
จากการสอบถามพระปราโมช ทราบว่า ร่างผู้เสียชีวิตและโครงกระดูกดังกล่าว ญาติผู้เสียชีวิตนำมามอบเพื่อใช้ในการสอนวิปัสสนากรรมฐาน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับทางที่พักสงฆ์แต่อย่างใด ส่วนคลิปที่ปรากฎภาพการสอนหูทิพย์-ตาทิพย์ให้กับเด็กที่ปรากฏออกสื่อโซเชียลนั้น เป็นบุตรหลานของผู้มาปฏิบัติธรรมฝึกสมาธิ ทางพระที่พักสงฆ์ได้ให้เด็กฝึกสมาธิแล้วลองปิดตา ในลักษณะเป็นการทดลองเล่นกันเท่านั้นว่า เมื่อฝึกสมาธิแล้วจะมองเห็นภาพที่มาทายในขณะปิดตาหรือไม่ โดยเด็กดังกล่าวไม่ได้ถูกหลอกลวงหรือบังคับขู่เข็ญให้มาทำกิจกรรมแต่อย่างใด และคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้นานประมาณ 5 เดือน ปัจจุบันไม่ได้มีการเปิดสอนหูทิพย์-ตาทิพย์ตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบเอกสารที่ทางพระปราโมช นำมาแสดงเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตดังกล่าวนั้น ปรากฏว่ามีทุกศพและโครงกระดูกนั้นมีสำเนาใบมรณะบัตรที่ญาตินำมามอบให้กับที่พักสงฆ์ ยกเว้นรายชื่อผู้เสียชีวิตรายการที่ 5 นางปราณี หมั่นกิจ และรายการที่ 6 นายเจือ ทองปรอน ไม่มีใบมรณะบัตร แต่มีเอกสารการอุทิศร่างที่ญาตินำมามอบให้ เบื้องต้นได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมแพทย์โรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี ทำการตัดเก็บชิ้นส่วนกระดูกของศพและโครงกระดูกดังกล่าว เพื่อส่งตรวจเก็บดีเอ็นเอที่พิสูจน์หลักฐาน 5 (จังหวัดลำปาง) ไว้เพื่อตรวจเปรียบเทียบกับญาติที่นำศพและโครงกระดูกมาถวายว่าเป็นบุคคลตามเอกสารที่พระปราโมชแสดงหรือไม่
ทั้งนี้ การตรวจสอบเบื้องต้น ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและฝ่ายปกครอง และสำนักพุทธศาสนาแล้ว การกระทำของที่พักสงฆ์ดังกล่าวเป็นกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสุสานและฌาปนสถาน พ.ศ.2528 ในข้อหา เก็บ ฝัง หรือเผาศพในสถานที่อื่นนอกจากในสุสานและฌาปนสถานสาธารณะ หรือสุสานและฌาปนสถานของเอกชน หรือเก็บศพในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล หรือเคหสถานเป็นการชั่วคราวโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 10 มีโทษปรับไม่เกิน 3,000 บาท ซึ่งเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติพินัยฯ ทางอำเภอขาณุวรลักษบุรี ได้ทำการเปรียบปรับพระปราโมชเรียบร้อยแล้ว
ส่วนที่พักสงฆ์ดังกล่าวจะมีความผิดใดอีกหรือไม่จะได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนญาติผู้เสียชีวิตที่นำร่างและโครงกระดูกมามอบให้นั้น พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการติดต่อให้มาพบเพื่อสอบสวนปากคำและทำการเก็บดีเอ็นเอ ตรวจเปรียบเทียบกับศพและโครงกระดูก เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เบื้องต้นศพผู้เสียชีวิตและโครงกระดูกนั้นพนักงานสอบสวนได้ทำการอายัดและได้ประสานไปยัง เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เพื่อจะเก็บรักษาไว้รอผลการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอต่อไป
