ศาลอาญา พิพากษาคดี แอม สรารัตน์

View icon 28
วันที่ 20 พ.ย. 2567
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ผ่านมากว่า 1 ปีแล้ว กับคดีของ "แอม สรารัตน์" ที่ใช้สารพิษไซยาไนด์ ฆ่าเหยื่อ 14 ศพ กับอีก 1 คน ที่รอดชีวิต วันนี้แม่ของ "ก้อย" หอบเอารูปของลูกสาว ไปติดตามทวงความยุติธรรมที่ศาลอาญา พร้อมกับทนายความที่ทำคดีนี้เพียบ

ศาลอาญา พิพากษาคดี แอม สรารัตน์
ครอบครัวของ นางสาวศิริพร หรือ "ก้อย" ผู้เสียชีวิตปริศนาในคดีถูกวางยาพิษ ไปที่ศาลอาญาเพื่อติดตามฟังคำพิพากษา

โดย นางทองพิน แม่ของก้อย กอดรูปลูกสาว เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่าไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไรจะไม่ขอก้าวล่วง แต่จะขอทวงคืนความยุติธรรมให้กับลูกสาว ยอมรับว่าที่ผ่านมาคิดถึงลูกทุกวัน ไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูก ตอนนี้ยอมรับว่าใช้ชีวิตลำบาก เพราะลูกที่เปรียบเสมือนเสาหลักครอบครัวไม่อยู่แล้ว

ที่ผ่านมาศาลนัดไต่สวน แอม สรารัตน์ จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธที่จะเบิกความต่อหน้าศาล พันตำรวจโท วิฑูรย์ อดีตสามีคนล่าสุดของแอม จำเลยที่ 2 แจ้งต่อศาลว่าไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นผู้นำกระเป๋า ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญไปซ่อนเร้นอำพราง ส่วนนางสาวธัญนิชา หรือ ทนายพัช จำเลยที่ 3 เบิกความขอต่อสู้ในประเด็น ไม่ปรากฏประจักษ์พยานว่าขณะเกิดเหตุ สารพิษไซยาไนด์เข้าสู่ร่างกายผู้ตายได้อย่างไร พยายามชี้ให้เห็นว่าคดีมีข้อสงสัย

คดีนี้ผ่านมาแล้ว 19 เดือน 6 วัน หลังภาพของ แอม สรารัตน์ ปรากฏขึ้นบนสื่อ ก่อนที่ต่อมาจะถูกเรียกว่า คดีแอม ไซยาไนด์ แล้วทนายความของ แอม สรารัตน์ ก็มาขอไม่ให้ใช้ชื่อนี้ เพราะศาลยังไม่ตัดสิน ส่วนสำนวนคดีทั้ง 15 คดี ตำรวจสรุปสำนวนส่งอัยการ มีความเห็นสั่งฟ้องมาอย่างต่อเนื่อง และคดีนี้ก็เป็นคดีแรกที่มีคำพิพากษาออกมา

ย้อนรอยคดี “แอม ไซยาไนด์”
เราย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นคดีนี้กันอีกที เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน เมื่อจู่ ๆ นางสาวศิริพร หรือ ก้อย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ แอม สรารัตน์ จู่ ๆ ก็มาเสียชีวิตปริศนาริมท่าน้ำในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ตอนแรกครอบครัวเข้าใจว่าเป็นเพราะอาการหัวใจล้มเหลว แต่พอไปเจอว่าเงินและทรัพย์สินหายไป ก็นึกสงสัย แอม สรารัตน์ ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธไม่รู้ ไม่เห็น อ้างว่าอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่มันค้านกับภาพวงจรปิดที่เห็นว่าไปด้วยกัน

จน แอม ยอมรับว่าไปกับ ก้อย จริง แต่อ้างว่าเพราะเพื่อนให้พาไปหาผู้ชายคนหนึ่ง แล้วก็พบว่าไม่จริงอีก เลยเป็นที่มาของการแจ้งความดำเนินคดีแรก คือ ลักทรัพย์ ต่อมาพอครอบครัวเอาเรื่องนี้ไปร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบฯ ก็เริ่มมีญาติของผู้เสียชีวิตรายอื่น ๆ มายื่นเรื่องให้ตรวจสอบเช่นกัน ก่อนเรื่องนี้จะไปถึง บิ๊กโจ๊ก และเริ่มมีรายงานผลการชันสูตรออกมา ระบุว่าผู้ตายเสียชีวิตเพราะสารพิษไซยาไนด์ เลยเป็นที่มาของการไปจับกุม แอม ดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่ง แอม ก็ให้การปฏิเสธ และเลือกที่จะสู้คดีนี้ ขณะที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานนานกว่า 3 เดือน จนสรุปสำนวนดำเนินคดีกับแอมเป็น 15 คดี ทั้งความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น, ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคบริโภค เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปลอมและใช้เอกสารปลอมฯ รวม 75 ข้อหา ลากเอา พันตำรวจโท วิฑูรย์ อดีตสามีแอมคนล่าสุด และ นางสาวธันย์นิชา ทนายความส่วนตัวของแอม ถูกดำเนินคดีตามไปด้วย

มูลเหตุของคดีที่ตำรวจสรุปไว้ มาจาก 2 เรื่องหลัก คือ ฆ่าเพื่อเอาทรัพย์สิน และเรื่องของการหลอกยืมเงิน เล่นแชร์ มีหนี้นอกระบบ ติดหนี้พนันออนไลน์ เคยมีความพยายามจะสู้คดีประเด็นที่เธอเป็นหญิงตั้งครรภ์ เพื่อจะได้เข้าหลักเกณฑ์งดเว้นโทษประหารชีวิต แต่เพราะเธอแท้งลูกไปแล้ว เรื่องนี้จึงตีตกไป