ลูกสาว ยันไม่เคยทอดทิ้ง หลังพ่อพิการโร่แจ้งความถูกโกงเงิน 1 หมื่นจากรัฐบาล

View icon 188
วันที่ 19 พ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ลูกสาว สะอื้น! ยันไม่เคยทอดทิ้ง หลังพ่อพิการแจ้งความจับ โกงเงิน 1 หมื่นจากรัฐบาล แจงแค่ขอยืมและใช้คืนจนจะหมดแล้ว เผยพ่อดื้อชอบดื่ม เมาแล้วขับจนถูกตัดขา ซ้ำไปอยู่กับใครก็ไม่ได้

จากกรณี นายนิพล อายุ 66 ปี ชายพิการที่เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง ดำเนินคดี ลูกสาวและลูกเขย หลังโกงเงิน 10,000 บาทที่ได้มาจากรัฐบาล

ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00น. วันนี้ (19 พ.ย. 67) น.ส.แอปเปิ้ล ผู้เป็นลูกสาว ได้ออกมาชี้แจงว่า ตนไม่เคยทอดทิ้งแบบที่พ่อพูดแบบนั้นเลย ประเด็นที่เขาทำแบบนี้ เริ่มจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ช่วงเช้าวันนั้นตนรีบไปทำงาน เอาอาหารไปให้พ่อตามปกติ แต่ตนไม่ได้เอาไปให้เอง รออยู่บนรถ ให้ลูกสาวของตนเอาวิ่งไปให้ตา พ่อก็บอกว่าทำไมตนไม่เอาลงมาให้ จากนั้นมา เขาก็มีอาการไม่พอใจตลอด ตนเอาไปให้ก็ต่อว่าตน ว่าจะไม่กิน ไม่เอา ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เลยปล่อยเขา ไม่กินก็ไม่เป็นอะไร แต่ตนก็ยังเอาข้าวไปให้ตามปกติทุกวัน 

ส่วนเรื่องเงิน 1 หมื่นบาท ตนเอาของพ่อมาจริง แต่ตนบอกกับพ่อและขอยืมกันก่อนแล้ว พ่อก็ตกลง แต่ตั้งแต่วันนั้นที่เขาไม่พอใจเรื่องที่ตนไม่เอาข้าวไปให้ ก็หาเรื่องมาตลอด ตอนนี้ใช้คืนจนค้างอีกแค่ 3,000 บาท สิ้นเดือนนี้ ตนก็จะคืนให้ทั้งหมด 

เรื่องรถที่ตนเอาของเขาไป เพราะเขาชอบดื่มเหล้าแล้วขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ที่โดนตัดขาก็เพราะดื่มแล้วไปโดนรถชน และล่าสุดก่อนที่ตนจะเอารถไป ก็ไปเมาแล้วขี่ฝ่าไฟแดงจนไฟไหม้แขนกับมือ หัวก็เปิดขึ้นไปเลย กู้ภัยกับเขาจนรู้จักกันดี ตนไม่รู้จะระวังอย่างไร เพราะตนก็ต้องทำงาน จึงเอารถไปเก็บไว้ 

"เขาเป็นแบบนี้ตลอด ไม่พอใจอะไรก็ไปต่อว่า เขาถึงอยู่กับใครก็ไม่ได้ พี่น้องไม่เอา แม่ตนที่เลิกกันไปก็เอาปืนไปไล่ยิงเขา อยากถามพ่อว่า ถ้าตนติดคุกไปพ่อจะทำอย่างไร ตายไปใครจะทำศพ เพราะมีแค่ตนคนเดียวทีดูแลอยู่"

น.ส.แอปเปิ้ล กล่าวต่อว่า พ่อเขาอยู่กับตนกับทางบ้านแฟนไม่ได้ เพราะใครพูดไม่เข้าหูก็ไปว่าเขา แล้วก็หนีตนออกมา ไม่มีใครไล่ทั้งนั้น ตนจึงไปตามหาและเอาพ่อมาอยู่ที่แผงทุเรียนที่ตนทำไว้ ก็มาดูแลตามปกติ แต่ตนไม่สามารถมาอยู่กับพ่อได้ตลอดเวลา ตนต้องทำงาน และพ่อเขาไม่อยากให้ตนอยู่กับแฟน กลัวว่าแฟนจะทำร้ายร่างกายตน แต่ตนก็บอกไปแล้วว่า แฟนเขาไม่เคยทำร้าย ตนก็เข้าใจพ่อ เขาอาจจะเหงา เป็นห่วงตน แต่ถ้ามีเวลาตนก็ไปหาเขาทุกวัน แค่กลางวันทำงาน กลางคืนไปหาเขาแล้วก็ต้องกลับมาอยู่กับลูกกับผัวเท่านั้น 

สิ่งที่พ่อทำ ตนก็ไม่รู้ว่าจะพูดจะทำอย่างไร แต่ตนก็ยืนยันว่าจะดูแลแบบเดิม จะด่าจะไล่ ไม่ยอมกินอาหารที่ตนเอามาให้ก็ไม่เป็นอะไร ตนทำหน้าที่ลูกแล้ว และเรื่องรถ ตนก็จะเอามาคืนให้ จะขี่ไปไหน เป็นอย่างไร ตนก็จะไม่สนใจ หากโดนรถชนตายไปก็แค่ทำศพ 
เรื่องบัตรเอทีเอ็ม บัตรประชาชน ตนคืนเขาไปตั้งนานแล้ว เมื่อวานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้าน แต่ตนมาทำงานที่สวนใน อ.เขาชะเมา ก็ได้โทรคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและอธิบายให้ฟังไปหมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตนก็ขอชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะพ่อพูดแบบนี้ตนเสียใจมาก ร้องไห้จนทำอะไรไม่ถูก และเสียใจที่พ่อทำแบบนี้ให้คนที่เขาไม่รู้เรื่องจริงมาว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง