“อนุทิน” โยนคณะกรรมการไตรภาคี ตอบค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ทันปีใหม่68หรือไม่ ลั่นแต่งตั้ง-โยกย้าย ผู้ว่าฯ ต้องมีหลักธรรมาภิบาล มท.ยุคนี้เริ่มคล่องตัวและทำงานรวดเร็วมากขึ้น
วันนี้ (19 พ.ย.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าหลังมีการโปรดเกล้าฯ ประกาศราชกิจจานุเบกษาแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด(18 พ.ย.)แล้ว หลังจากนี้จะเป็นกระบวนการเป็นสอบเลื่อนขั้นจากระดับ 9 เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดระดับ 10 โดยมอบนโยบายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยรคัดเลือกผู้ว่าฯ โดยยึดหลักธรรมาภิบาลทุกอย่าง ความอาวุโสก็เป็นธรรมาภิบาลอย่างหนึ่ง ผลงาน ประสบการณ์ ความตั้งใจ ความซื่อสัตย์ สุจริต ความทุ่มเท หลาย ๆ อย่างประกอบกัน
นายอนุทิน พอใจที่การขับเคลื่อนงานของกระทรวงมหาดไทย เริ่มมีความคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น มีการทำงานร่วมกันและเข้าใจในเป้าหมาย ภารกิจที่สอดคล้องกันมากขึ้น และคงไม่มีเหตุการณ์เกียร์ว่างเหมือนที่ผ่านมา เพราะเป็นทีมเดียวกันแล้ว ที่ผ่านมาระดับอธิบดีและผู้ว่าราชการจังหวัดก็ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด เพราะการสั่งการโดยนโยบาย ไม่ใช่การสั่งให้ทำอะไรบ้าง เมื่อใครปฏิบัติก็จะเห็นผลงานได้ง่าย เมื่อต้องพิจารณาอะไรก็ตามก็จะให้ความเห็นได้ จึงอยากมุ่งมั่นให้กระทรวงมหาดไทย ให้ความสะดวกสบายยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนได้อย่างแน่นอน
และภายหลังจากการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด จะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.ได้กำชับให้ข้าราชการฝ่ายปกครองโดยออกเป็นหนังสือให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางชัดเจน การแข่งขันก็เป็นเรื่องของการแข่งขันไป การหาเสียงเป็นเรื่องของผู้สมัครไปเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน
“อย่างในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ อย่าว่าแต่พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทยเลย ในจังหวัดเดียวกันพรรคภูมิใจไทยก็แข่งกัน ตนเองจึงเลือกที่จะไม่ไป และพรรคภูมิใจไทยก็ไม่เคยส่งผู้สมัครในนามพรรค ทุกคนล้วนเป็นคนภูมิใจไทยและคนสนิทของพรรคภูมิใจไทย กินยาแก้ปวดวันละวันละ 10 เม็ดยังไม่หายปวด”
ส่วนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน นายอนุทิน กล่าวว่า มีขั้นตอนมาแล้ว ก็ปฏิบัติตามขั้นตอน ถือเป็นนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งล้วนมีกระบวนการในการดำเนินการ โดยเฉพาะคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งในส่วนนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ มีหน้าที่ที่จะต้องประสานให้ได้ แต่การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่คณะกรรมการไตรภาคี ที่ประกอบไปด้วยลูกจ้าง นายจ้าง และภาครัฐ
ส่วนจะทันช่วงวันปีใหม่เพื่อเป็นของขวัญให้คนไทยหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวนี้อยู่ในการแถลงของรัฐบาลสมัยนายกฯ เศรษฐา และนายกฯ แพทองธาร ส่วนจะทำได้ในวันที่ 1 มกราคมหรือไม่อยู่ที่ไตรภาคีว่าจะเห็นชอบถึงความเหมาะสมหรือไม่
