ผู้ต้องหาใช้ฉมวกแทงเพื่อนบ้านดับ สารภาพได้เสพยาบ้าหนึ่งเม็ด ขณะนอนอยู่ในกระท่อม หูแว่วได้ยินผู้ตายพูดเยาะเย้ย จึงเดินไปหาแล้วเกิดการทะเลาะวิวาท ก่อนใช้ฉมวกแทงเสียชีวิต
15 พ.ย. 67 นายธวัชชัย หรือหนุ่ม อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาที่ใช้ฉมวกแทง นายบุญกอง อายุ 55 ปี เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาพิมพ์ลายนิ้วมือ เตรียมส่งฟ้องศาลฝากขังที่ศาลจังหวัดพล ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาเสพยาเสพติด โดยนายธวัชชัย ให้การว่า เมื่อวานเกิดการทะเลาะวิวาทกัน แต่ไม่รู้ว่าทะเลาะวิวาทกันด้วยสาเหตุใด ก่อนที่ทางตำรวจจะคุมตัวนายธวัชชัยเข้าห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา สภ.พล รอส่งฟ้องศาลฝากขังในวันนี้ตามขั้นตอน
ร.ต.อ.ประภาส พรพิพัฒน์ รองสว.(สอบสวน)สภ.พล ให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยได้เสพยาบ้าไป 1 เม็ด แล้วนอนในกระท่อม ขณะนอนอยู่หูแว่วได้ยินคนตายพูดเยาะเย้ย จึงเดินออกมา และเจอคนตายอยู่ในคลองไส้ไก่ ก่อนเกิดการทะเลาะกันขึ้น จึงไปหยิบเอาฉมวกที่เสียบอยู่ริมคลองไส้ไก่มาแทงผู้ตาย และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกัน จำได้เพียงว่าได้ยินผู้ตายพูดเยาะเย้ยจึงลงมือฆ่า
ส่วนที่ทุ่งนาบ้านพื้นที่ของนายธวัชชัยผู้ก่อเหตุ มีกระท่อมนาสร้างอยู่ท้ายที่นา ภายในกระท่อม พบ เศษฟอยล์อุปกรณ์การเสพยาบ้าตกอยู่ และภายในกล่องเหล็กมีกัญชาอัดแท่ง และกัญชาสด อยู่ภายในกล่องจำนวนหนึ่งด้วย
ในขณะที่ตากับยายของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ขณะเกิดเหตุตากับยาย ไปซื้อเคียวเกี่ยวข้าวเตรียมเกี่ยวข้าว พอกลับมาเห็นคนกำลังวุ่นวาย วิ่งวุ่นกันไปมาหลายหลายคน ก่อนที่จะมีรถตำรวจมาที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น คิดว่าเป็นเรื่องผัวเมียทะเลาะกัน หรือไม่ก็ครอบครัวของตาหนุ่มซึ่งเป็นเจ้าของที่นาจะพากันไปงานศพของแม่ที่เพิ่งเสียชีวิตที่จัดอยู่ในตัวเมืองขอนแก่น ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าเป็นเหตุฆ่ากันตาย
ที่ผ่านมานายหนุ่ม เป็นคนนิสัยดี จ้างตนให้มาเกี่ยวข้าวในที่นาผืนนี้ เพราะเรียนสูงทำนาไม่เป็น โดยจ้างให้ตนเองเกี่ยวข้าว โดยแบ่งข้าวให้นายหนุ่ม 1 ใน 3 และนายหนุ่มจะชอบตกปลาอยู่ในหนองน้ำด้านหลังแปลงนาเป็นประจำ ได้ปลาได้ข้าวก็มาทำกับข้าวมาให้กินด้วย ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่งส่วนเรื่องเหล้ายา ไม่คิดว่าจะมีและก็ไม่ได้สนใจหรือไปยุ่งหาคำตอบอะไร ซึ่งตนเองไม่เห็นหน้าตาหนุ่มวันนี้เป็นวันที่สี่ ซึ่งคิดว่านายหนุ่มอาจจะยุ่งวุ่นวาย อยู่กับงานศพของแม่ตัวเองที่ ในเมืองขอนแก่นอยู่ กระทั่งมาทราบข่าวนี้
