มท. 1 เชื่อ “ทักษิณ” ขึ้นเวทีช่วยลูกพรรคหาเสียงดูกฎหมายแล้ว

View icon 1
วันที่ 15 พ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“อนุทิน” เชื่อ “ทักษิณ” ขึ้นเวทีช่วยลูกพรรคหาเสียงดูกฎหมายแล้ว เตือนนักร้องอย่าร้องสุ่มสี่สุ่มห้า เปรยงานเลี้ยงพรรคร่วม จัดหลังปีใหม่ บอกจัดบ่อยไม่ดี ไม่มีเรื่องคุย

วันนี้ (15 พ.ย.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีปราศรัยว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะได้ สส.กว่า 200 ที่นั่งว่า เป็นสิ่งที่ผู้สมัครทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำให้ประชาชนเชื่อถือมากที่สุด และคนนั้นก็จะได้เข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร การที่แต่ละพรรคตั้งเป้าหมาย ก็ถือเป็นการเตรียมพร้อมที่ดี   

เมื่อถามถึงพรรคภูมิใจไทยที่ดูกระแสเงียบทำให้ประชาชนไปโฟกัสที่พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน  นายอนุทิน กล่าวว่า ขอไปทำงานดีกว่า  เรื่องการเมืองไม่มีอะไรก็ขออย่าให้มันมี สส. พรรคภูมิใจไทยทุกคนก็ลงพื้นที่ ในส่วนที่เป็นคณะรัฐมนตรีก็ทำงานอย่างเต็มที่  

นายอนุทิน ยังเปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทยจะไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ.ในนามพรรค แต่หากเป็นพรรคเป็นพวกกันจะไปเชียร์ก็เป็นไปตามอัธยาศัย ส่วนตนจะมีโอกาสขึ้นเวทีไปปราศรัยเพื่อช่วยผู้สมัครคนใดหรือไม่นั้น ขอไปศึกษากฎหมายก่อน เนื่องจากตนเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และได้สั่งการให้ออกประกาศให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายวางตัวเป็นกลาง    และการสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นถ้าไม่ได้สมัครในนามพรรคภูมิใจไทย ถ้าจะขึ้นเวทีตนต้องเป็นผู้ช่วยหาเสียง ต้องเสีย 300 บาท ซึ่งไม่ต้องถึงขนาดนั้น ต้องทำตัวเป็นผู้คุมเกมผู้คุมกฎให้เรียบร้อย  ให้การเลือกตั้งผ่านพ้นไปด้วยดี เกิดความราบรื่นดีกว่า

ขณะที่การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ  ชินวัตร ส่งผลถึงรัฐบาลหรือไม่ เนื่องจากมีคนจ้องจะร้องเรียน  นายอนุทิน กล่าวว่า  จะไปร้องสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ได้  เพราะเชื่อมั่นว่า คณะทำงานของพรรคเพื่อไทย ก่อนที่จะเชิญนายทักษิณไปช่วยหาเสียง  ก็ต้องตรวจสอบกฎระเบียบต่าง ๆ ไว้อย่างรัดกุม อยู่แล้ว ซึ่งคนระดับนายทักษิณ ถ้าจะขึ้นเวทีได้  ไม่ใช่แค่คิดว่าอยากไปวันนี้ก็ไป ซึ่งมองว่าต้องวางแผน และเช็คระเบียบข้อบังคับไว้อย่างดี  เป็นไปตามกฎหมาย ขออย่ามองว่าใครทำได้ใครทำไม่ได้ คนไทยทุกคนมีสิทธิที่จะอาสามารับใช้บ้านเมือง  ภายใต้กฎหมาย และรัฐธรรมนูญ

สำหรับการปราศรัยของนายทักษิณ มีการ พาดพิงไปถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ถึงการที่ไม่สามารถร่วมรัฐบาลได้เนื่องจากติดเงื่อนไข มาตรา 112 นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในการร่วมรัฐบาลตอนต้น หลังเลือกตั้ง เมื่อครั้งที่พรรคก้าวไกลประกาศตัวเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล  ซึ่งตรงนั้นไม่มีพรรคภูมิใจไทยอยู่  จึงไม่ทราบว่ามีเงื่อนไข หรือสิ่งใดที่ต้องตกลงกัน 

ส่วนกรณีของนายทักษิณ และนายธนาธร จะส่งผลให้ในอนาคตสามารถร่วมงานกันได้หรือไม่  นายอนุทิน มองว่า ทุกคนมีความคิด และมีแนวคิดที่แตกต่างกันได้ แต่คงไม่ใช่เรื่องการโกรธแค้นหรือเกลียดชังกันเป็นเรื่องส่วนตัว  เรื่องบ้านเมือง จะเอาความรู้สึกส่วนตัวมาเป็นหลัก ของการตัดสินใจไม่ได้  ต้องเอาเรื่องของบ้านเมืองเป็นหลักก่อน ใครคิดอย่างไรไม่รู้แต่ตนคิดอย่างนี้ 

นายอนุทิน  ยังกล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลว่า  น่าจะเป็นหลังปีใหม่ เพราะบ่อยไปก็ไม่ดี ไม่มีอะไรที่จะคุยกัน  หลังสภาฯ เปิดช่วงเดือนมกราคมน่าจะมีอะไรพูดคุยกัน จะได้ถือโอกาสนำไปหารือกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง